xs
xsm
sm
md
lg

ทาสแม้ว! ไม่หยุด-ขู่เผาซ้ำอีก “ศีรษะอโศก-ดอยลายปลายฟ้า”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย – ทาสแม้ว! ยังเหิมไม่หยุด เมื่อยิงถล่มสำนักปฏิบัติธรรม “ดอยลายปลายฟ้า” คืนที่ผ่านมาอย่างอุกอาจแล้ว หวั่นก่อเหตุเผาซ้ำอีก เชื่อเป็นการตัดทางน้ำที่จะใช้ดับไฟ หลังก่อนหน้านี้เคยปฏิบัติการบุกเผากุฏิในสำนักฯ วอดไปแล้ว 2 หลัง พร้อมขู่เผาสำนักศีรษะอโศกด้วย

รายงานข่าวจาก จ.เชียงรายแจ้งว่า กรณีเมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มมือปืนใช้ปืนเอ็ม 16 เข้าไปยิงถล่มภายในสำนักปฏิบัติธรรมดอยลายปลายฟ้า ชุมชนบุญนิยม หมู่ 8 ต.ท่าสาย อ.เมือง จ.เชียงราย จนทำให้แท๊งน้ำของสำนักสงฆ์เสียหายนั้น ล่าสุดทาง พ.ต.ท.อนันต์เดช ยาวิชัย รอง ผกก.ป. และ พ.ต.ต.สรัญรัฐ ชยานนท์ สารวัตรสืบสวน สภ.เมือง ได้ส่งกำลังเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแล้ว ขณะเดียวกันทางฝ่ายปกครองได้ส่งนายสุชาติ พงษ์สังกา ปลัดฝ่ายป้องกัน อ.เมืองเชียงราย เข้าไปดูสถานการณ์ด้วย ซึ่งพบว่าสำนักปฏิบัติธรรมยังคงอยู่ในสภาวะปกติโดยมีพระอาจารย์ดวงดี ฐิตปุญโญ อายุ 61 ปี ผู้ดูแลสำนักปฏิบัติธรรมและญาติธรรมอีก 10 กว่าอาศัยอยู่ภายใน

ส่วนความเสียหายพบว่า แท็งก์น้ำที่อยู่ด้านหน้าสำนักปฏิบัติธรรม ซึ่งตั้งอยู่ติดกับถนนลูกรังเลียบคลองชลประทานถูกยิงจนทะลุ 3 รู ฝาปิดด้านบนเสียหายน้ำภายในทะลักออกมาทำให้เจ้าหน้าที่ต้องนำกาวไปปิดเอาไว้แต่คาดว่าจะใช้การได้อีกเพียงไม่กี่วันคงรั่วอีก ทั้งนี้คาดว่าคนร้ายได้ยิงออกมาจากถนนเลียงคลองดังกล่าวโดยพบมีขี้เถ้าบุหรี่กองอยู่ด้วย

สำหรับปลอกกระสุนเอ็ม 16 ที่พบในที่เกิดเหตุพบตกอยู่จำนวน 12 ปลอก ซึ่งทางตำรวจได้เก็บเอาไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุยังไม่สามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็นคนกลุ่มใด

ทั้งนี้ เหตุการณ์คนร้ายทำลายสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าวถือเป็นครั้งที่ 2 แล้วหลังจากเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้มีการบุกเข้าไปเผากุฏิของพระอาจารย์ดวงดีจนวอดไป 2 หลัง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงนำโดย น.ส.จีรนันท์ จันทวงศ์ แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จ.เชียงราย ได้ไปเปิดเวทีด่าว่าสำนักปฏิบัติธรรมเพราะมีการถ่ายทอดเสียงทางวิทยชุมชนเอฟเอ็ม 89 เม็กกะเฮิร์ต ซึ่งรับช่วงสัญญานมาจากคลื่นวิหคเรดิโอ จ.เชียงใหม่ ในการถ่ายทอดเสียงสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีอย่างต่อเนื่อง จนทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงไม่พอใจ แต่ น.ส.จีรนันท์ ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเผากุฏิดังกล่าวแต่อย่างใด

ด้าน นายวิเชียร คณะรินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมบุญนิยมดอยลายปลายฟ้าของสำนักปฏิบัติธรรม กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนอยู่ในสำนักปฏิบัติธรรมราว 10 คน รวมทั้งพระอาจารย์ดวงดีด้วย โดยช่วงเย็นประมาณ 15.00 น.ก็เริ่มเห็นผิดปกติ เพราะมีรถยนต์ปิกอัพขับขี่ผ่านไปมาหลายรอบจนน่าสงสัย เพราะภายในมีเพียงถนนเลียบคลองและอยู่ลึกเปลี่ยวไม่เคยมีรถมากมาก่อน

จากนั้นช่วงหัวค่ำทุกคนอยู่ในอาคารสูงก็เห็นชาย 4-5 คน มากับรถยนต์ปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ ไปจอดบนถนนก่อนถึงประตูเข้าสำนักปฏิบัติธรรมเล็กน้อย และดับเครื่องยนต์ ก่อนช่วยกันเข็นรถเพื่อไม่ให้เกิดเสียดัง จากนั้นมีการสูบบุหรี่ดูลาดเลากันอย่างใจเย็นนานกว่า 20 นาที แต่เมื่อคนในกลุ่มรู้ว่ามีคนในอาคารของสำนักปฏิบัติธรรมก็มีเสียงดังว่า “อย่าไปกลัวมัน ยิงเลยๆ”

“จากนั้นก็มีเสียงปืนยิงขึ้นแรกๆ ยิงเป็นนัดจากนั้นยิงเป็นชุด พวกเราภายในก็กลัวไม่กล้าออกไปเพราะกลัวถูกยิงจึงหลบกันอยู่ กระทั่งเสียงปืนสงบและคนเหล่านั้นก็ขับขี่รถหลบหนีไป” นายวิเชียร กล่าว และว่า

สำหรับสาเหตุคาดว่าเกิดจากการที่พวกเราเคลื่อนไหวไปชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่กรุงเทพฯ และจัดส่งเสบียงอาหารไปให้ รวมทั้งมีการแพร่กระจายเสียงเอเอสทีวีทางคลื่นวิหคเรดิโอ ตั้งแต่เวลา 13.00-17.00 น.ส่วนช่วงเวลาที่เหลือถ่ายทอดเสียงคลื่นเอฟเอ็มทีวีเกี่ยวกับรายการธรรมะตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนคนก่อเหตุไม่อาจทราบได้ว่าเป็นใคร แต่คงเป็นฝ่ายตรงกันข้ามที่มีแนวคิดไม่ตรงกันและไม่อยากให้พวกเราเคลื่อนไหวอีกในอนาคต

นายวิเชียร กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุเผากุฏิ 2 หลังแล้วได้มีคนโทรศัพท์เข้าไปขู่ว่าจะเผาร้านค้าชุมชนและบ้านพักหญิงของญาติธรรมภายในสำนักปฏิบัติธรรมหากว่ายังไม่หยุดแพร่กระจายเสียงทางวิทยุชุมชนดังกล่าว จากนั้นจึงมีมือปืนเข้าไปยิงถล่มแท๊งน้ำคาดว่าจะทำลายแท๊งน้ำเพื่อเตรียมเผาจริง โดยไม่ให้คนภายในนำน้ำไปช่วยดับเพลิงได้นั่นเอง เนื่องจากเป็นแท๊งน้ำที่ใช้ทั้งในชุมชนโดยรอบและสำนักปฏิบัติธรรมด้วย นอกจากนี้ยังขู่อีกว่านอกจากที่ จ.เชียงราย แล้วจะไปเผาที่ศีรษะอโศกด้วย

“หลังเกิดเหตุพระอาจารย์ได้บอกให้พวกเราอยู่อย่างสงบ เขาจะยิงก็ยิงไป จะเผาก็เผาไป เราอย่าได้ไปตอบโต้เด็ดขาดให้อยู่กันอย่างอหิงสา” ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมบุญนิยมดอยลายปลายฟ้าของสำนักปฏิบัติธรรม กล่าว และว่า

แต่เพื่อความปลอดภัยได้ประสานขอกำลังตำรวจช่วยไปดูแลความปลอดภัยโดยเฉพาะในยามค่ำคืนแล้ว เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีกลุ่มคนร้ายเข้าไปก่อเหตุอีกหรือไม่ รวมทั้งเป็นห่วงความปลอดภัยของญาติธรรมที่มักจะหมุนเวียนกันเข้าไปปฏิบัติธรรมวันละประมาณ 50-60 คน ภายในยังมีอาคารอยู่ราว 20 หลังให้ดูแลอีกด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น