ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองทัพเรือโล่งอก ซาอุฯ ขยายเวลาเปิดสนามบินรับคลื่นประชาชน ชาวพม่านับถือศาสนาอิสลามเกือบ 500 คน ถูกปล่อยที่สนามบินอู่ตะเภา ระยอง ได้เฮ หลังทางการพม่าจัดเครื่องบินรับจากไทยส่งไปแสวงบุญประกอบพิธีฮัจญ์ ที่ซาอุดีอาระเบีย
ผู้สื่อขาวรายงานว่า จากกรณีที่ผู้แสวงบุญชาวพม่าจำนวน 460 คน ที่เดินทางจากประเทศพม่าเพื่อมาต่อเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางไปแสวงบุญ ประกอบพิธีฮัจญ์ที่เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย แต่ปรากฏว่า สนามบินปิดเป็นเหตุให้สายการบินของประเทศพม่าต้องพาผู้แสวงบุญมาลงที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2551 ซึ่งกองทัพเรือ โดยกองการบินทหารเรือได้จัดที่พักอาศัยให้ผู้แสวงบุญพักที่อาคารพลศึกษา กองการบินทหารเรือ จนถึงวันนี้
ล่าสุด นายอาบูปัก อายุ 30 ปี ชาวพม่า เปิดเผยว่า ผู้แสวงบุญทุกคนรู้สึกผิดหวังเมื่อสายการบินประเทศพม่ามาส่งมาทิ้งไว้ที่สนามบินอู่ตะเภา ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2551 อีกทั้งไม่ได้เดินทางไปประเทศซาอุดีอาระเบียตามกำหนด อาหารบางวันก็ได้กินตามเวลาทั้ง 3 มือ บางวันก็มีน้อยมาก ทำให้ทุกคนกระวนกระวายใจ บางคนป่วย มีเจ้าหน้าที่พยาบาลมาดูแล ตรวจร่างกาย จ่ายยาให้รับประทานกัน ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพลศึกษาของทหารเรือ ซึ่งในวันนี้ได้มีสถานทูตมาดู และได้บอกให้ทราบว่าจะมีเครื่องบินมารับไปส่งให้แสวงบุญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้แสวงบุญที่ตกค้างตกค้างทั้งหมดที่ตกค้างอยู่ที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ขณะนี้รัฐบาลพม่าได้ประสานกับประเทศซาอุดีอาระเบีย ให้ยืดเวลาเปิดสนามบินเจดดาห์ไปจนถึงวันที่ 7 ธันวาคม 2551 เพื่อให้ผู้แสวงบุญชาวพม่าที่ตกค้างได้เดินทางไปดังที่ได้ตั้งใจไว้ โดยได้นำผู้แสวงบุญบางส่วนไปขึ้นเครื่องบินของ สายการบินจอร์แดนแอร์ไลน์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จำนวน 73 คน ส่วนที่เหลือประเทศพม่าได้จัดสายการบินอิหร่านแอร์ มารับที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา เพื่อมุ่งหน้าสู่สนามบินเจดดาห์แล้ว