ฉะเชิงเทรา - ประชาชนในพื้นที่ฉะเชิงเทรา เฝ้าติดตามสถานการณ์ เหตุการณ์บ้านเมือง หลังรัฐบาลเตรียมสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บุกยึดสนามบินสำคัญทั้งสองแห่งของประเทศ หลังระดมตำรวจจากรอบตัวเมืองหลวงเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อเย็นวานนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวานนี้ (27 พ.ย.) เวลา 21.30 น. ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราต่างพากันเฝ้าติดตามสถานการณ์ทางหน้าจอโทรทัศน์อย่างใกล้ชิด หลังจากรัฐบาล โดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในสองสนามบิน ที่ถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกยึดไว้นานกว่า 2 วันแล้ว
ขณะที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.สุรพงษ์ กายตะวัน ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้มีคำสั่งเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนภายใต้สังกัด ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กองร้อยที่ 2 จากทุก สภ.ให้เร่งระดมกำลังอย่างเร่งด่วนที่สุด ให้เดินทางเข้าไปในกรุงเทพฯ โดยไม่ยินยอมเปิดเผยถึงที่หมายปลายทางว่า ได้เตรียมส่งกำลังพลชุดดังกล่าวนี้ อีกกว่า 150 นาย ไปยังที่ใด แต่ได้ให้กำลังพลทั้งหมดเตรียมความพร้อม โดยนำของใช้ส่วนตัวไปให้สามารถอยู่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างน้อยเป็นเวลา 2 วัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวได้จัดเตรียมอุปกรณ์ในการควบคุมฝูงชนไปด้วยอย่างครบมือ ทั้งโล่ หมวกปราบจลาจล กระบอง และหน้ากาก พร้อมปลดป้ายชื่อ-ยศออกจากเครื่องแบบ ก่อนที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯไปด้วยรถตู้สีขาว พร้อมรถขนสัมภาระจำนวนกว่า 10 คัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวานนี้ (27 พ.ย.) เวลา 21.30 น. ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราต่างพากันเฝ้าติดตามสถานการณ์ทางหน้าจอโทรทัศน์อย่างใกล้ชิด หลังจากรัฐบาล โดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในสองสนามบิน ที่ถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกยึดไว้นานกว่า 2 วันแล้ว
ขณะที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.สุรพงษ์ กายตะวัน ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ได้มีคำสั่งเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนภายใต้สังกัด ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กองร้อยที่ 2 จากทุก สภ.ให้เร่งระดมกำลังอย่างเร่งด่วนที่สุด ให้เดินทางเข้าไปในกรุงเทพฯ โดยไม่ยินยอมเปิดเผยถึงที่หมายปลายทางว่า ได้เตรียมส่งกำลังพลชุดดังกล่าวนี้ อีกกว่า 150 นาย ไปยังที่ใด แต่ได้ให้กำลังพลทั้งหมดเตรียมความพร้อม โดยนำของใช้ส่วนตัวไปให้สามารถอยู่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างน้อยเป็นเวลา 2 วัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวได้จัดเตรียมอุปกรณ์ในการควบคุมฝูงชนไปด้วยอย่างครบมือ ทั้งโล่ หมวกปราบจลาจล กระบอง และหน้ากาก พร้อมปลดป้ายชื่อ-ยศออกจากเครื่องแบบ ก่อนที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯไปด้วยรถตู้สีขาว พร้อมรถขนสัมภาระจำนวนกว่า 10 คัน
