ชาวนาเมืองช้างระทมอีกรอบ-เร่งเก็บเกี่ยวข้าวหนีฝนพายุ “นูล”

สุรินทร์ - ชาวนาเมืองช้างระทมอีกรอบ ต้องเร่งเก็บเกี่ยวข้าวหนีฝนจากอิทธิพลพายุ “นูล” ขณะที่ข้าวเปลือกหอมมะลิความชื้นไม่เกิน 15% ราคาเริ่มขยับขึ้นจากตันละ 9,500 บาท เป็นตันละ 13,000 บาท ยังต่ำกว่าราคารับจำนำรัฐบาล แต่เกษตรกรจำใจขายเหตุต้องการใช้เงินเร่งด่วน

วันนี้ (19 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอิทธิพายุโซนร้อนนูลซึ่งแปรสภาพมาเป็นพายุดีเปรสชันที่ส่งผลกระทบต่อภาคอีสานตอนล่างทำให้สภาพอากาศของ จ.สุรินทร์ ในช่วงนี้มีฝนตกกระจายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.เมืองสุรินทร์ ท้องฟ้ามืดครึ้ม มีเมฆฝนปกคลุมและมีลมกระโชกแรงเป็นระยะๆ ชาวนาต้องเร่งเก็บเกี่ยวข้าวที่กำลังสุกเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่ง เพราะเกรงว่าผลผลิตจะได้รับความเสียหายจากฝนพายุนูลซ้ำเติมอีก จากที่ขณะนี้นาส่วนใหญ่มีน้ำท่วมขังรวงข้าวที่พร้อมเก็บเกี่ยวต้องจมน้ำเสียหายเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว

อีกทั้งการเก็บเกี่ยวข้าวในนาที่น้ำท่วมขัง ทำได้ด้วยความยากลำบาก เพราะรถจักรเกี่ยวข้าวจะรับจ้างเกี่ยวเฉพาะพื้นที่นาที่ไม่มีน้ำท่วมขังเท่านั้น เนื่องจากเกรงว่ารถจักรจะได้รับความเสียหาย เกษตรกรต้องประสบความเดือดร้อนหาจ้างแรงงานคนเร่งเก็บเกี่ยวหนีฝนให้ได้มากที่สุดแทน แม้จะล่าช้าแต่ก็ไม่มีทางเลือก

ขณะที่ค่าจ้างรถจักรเกี่ยวข้าวปีนี้ขึ้นราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมาอีกไร่ละ 100 บาท เป็นไร่ละ 600 บาท ซึ่งเจ้าของรถให้เหตุผลว่าราคาน้ำมันสูงขึ้น และต้องจ่ายค่านายหน้าที่ติดต่อหานาข้าวให้อีกไร่ละ 50 บาท

สำหรับราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ล่าสุดวันนี้ (19 พ.ย.) ที่ จ.สุรินทร์ ความชื้นไม่เกิน 15% โรงสีข้าวรับชื้อกิโลกรัมละ 13 บาท หรือตันละ 13,000 บาท สูงขึ้นกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาที่รับซื้อกิโลกรัมละ 9.50 บาท แต่ยังต่ำกว่าราคารับจำนำของรัฐบาล ที่กำหนดราคารับซื้อไว้ที่ความชื้นไม่เกิน 15% กิโลกรัมละ 15 บาท หรือ ตันละ 15,000 บาท

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วน เริ่มนำข้าวมาขายที่โรงสีข้าวกันมากขึ้น แม้จะได้ราคาต่ำกว่าราคารับจำนำของรัฐบาลก็ตาม