ศูนย์ข่าวศรีราชา -บริษัท ยูนิไทย ชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง แหลมฉบัง เตรียมลงทุนจำนวน 100 ล้านบาท ขยายสะพานเทียบเรือและแท่นขนถ่าย หลังโครงการเก่าเริ่มคับแคบและชำรุด
วันนี้ (18 พ.ย.) ที่ห้องประชุมบริษัท ยูนิไทย ชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี นายฐานิศร์ น้อยเพ็ง นายอำเภอศรีราชา เป็นประธานในการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม โครงการปรับปรุงและทดแทนสะพานเทียบเรือและแท่นขนถ่าย โดยมีตัวแทนจากชุมชนต่างๆ ในเขตแหลมฉบังที่อาจจะได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวฯ ร่วมประชุมรับฟังในครั้งนี้
โครงการดังกล่าวจะดำเนินการได้จะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยจะต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในการทำประชาพิจารณ์ ซึ่งที่ผ่านมาก็ดำเนินการไปแล้ว 1 ครั้ง และในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เพื่อนำข้อมูลเสนอหน่วยงานระดับสูงพิจารณาต่อไป
ด้าน นายอาทิตย์ ประทุมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท ยูนิไทย ชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียริ่ง จำกัด กล่าวถึง โครงการขยายสะพานเทียบเรือและแท่นขนถ่ายนั้น จะใช้งบประมาณทั้งสิ้นประมาณ 100 ล้านบาท โดยขณะนี้รูปแบบต่างๆ ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อย และพร้อมดำเนินการได้ทันที หากผลรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ผ่านความเห็นชอบเป็นที่เรียบร้อยก็สามารถดำเนินการได้ทันที โดยใช้ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 150 วันก็แล้วเสร็จ
ส่วนสาเหตุที่บริษัทต้องขยายสะพานท่าเทียบเรือและแท่นขนถ่าย เนื่องจากปัจจุบันแท่นขนถ่ายเดิมถูกระแทกจากเรือที่เข้ามาจอดซ่อมแซมจนเกิดการชำรุด ดังนั้น บริษัทจึงต้องก่อสร้างแท่นขนถ่ายเพิ่มขึ้นอีก 1 จุด บริเวณเดิม และให้เรือเข้ามาเทียบท่าตรงจุดนั้น เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อแท่นขนถ่ายเดิม ส่วนสะพานเทียบเรือ กว้าง 36 เมตร ยาว 30 เมตร โดยเป็นสะพานเทียบเรือแบบโปร่งที่น้ำสามารถพัดผ่านไปได้
ด้าน นายสุรชัย แสงทักษิณ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 ชลบุรี กล่าวถึงโครงการที่จะขยายนั้น หน่วยงานรัฐฯที่รับผิดชอบขอฝากให้ทางบริษัทฯ ดูแลปัญหาและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาเคยได้รับทราบว่ามีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และเมื่อมีโครงการจะขยายเพิ่มเติมขึ้นก็ควรวางมาตรการในการดูแลและป้องกันปัญหา ที่อาจจะเกิดขึ้นใหม่ด้วย เพราะไม่เช่นนั้นปัญหาก็อาจจะลุกลามและรุนแรงขึ้น