ศรีสะเกษ – “ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล” ประธานกรรมการเลขาธิการมูลนิธิบำรุงขวัญฯ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เดินสายตรวจเยี่ยมทหารไทยตรึงกำลังบริเวณชายแดนเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ พร้อมมอบพระแก้วมรกตและเงินสดให้ทหารทุกนายเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ขณะที่ทหารไทยและกัมพูชามีการปรับพื้นที่ปฏิบัติการให้รวมเป็นฐานใหญ่ จากเดิมที่ตั้งเป็นฐานกลุ่มย่อย เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการเจรจาปรับลดกำลังบนเขาพระวิหาร
วันนี้ (13 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.15 น.ที่บริเวณฐานปฏิบัติการร่องน้ำ ตามแนวขึ้นไปสู่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ทับซ้อนทางด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่านผู้หญิง วิระยา ชวกุล ประธานกรรมการเลขาธิการมูลนิธิ บำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพลทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ตรึงกำลังอยู่บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร ดังกล่าว
โดยมี พ.อ.ชยันต์ หวยสูงเนิน รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และ นายประวัติ รัฐิรมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นำคณะนายทหารของกองกำลังสุรนารี และข้าราชการ ให้การต้อนรับ ซึ่งท่านผู้หญิงวิระยา ได้มอบเหรียญพระแก้วมรกต ซึ่งด้านหลังมีอักษรว่า “ภปร.” และเงินสดให้ทหารไทยที่ตรึงกำลังอยู่บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร ทุกนายๆ ละ 500 บาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจด้วย
จากนั้นเวลา 15.00 น.วันเดียวกันนี้ คณะของท่านผู้หญิงวิระยา ได้ออกเดินทางไปที่ฐานปฏิบัติการโดนตรวจ และ ฐานปฏิบัติการบ้านซำแต ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมบำรุงขวัญทหารที่ประจำการอยู่ฐานปฏิบัติการแห่งนี้ โดยท่าน ผู้หญิงวิระยา ได้มอบเหรียญพระแก้วมรกต และเงินสดให้กับทหารพรานทุกนายๆ ละ 500 บาทเช่นกัน
พร้อมทั้งได้ตรวจเยี่ยมบริเวณฐานปฏิบัติการที่ทหารไทยตรึงกำลังอยู่เพื่อรับทราบสถานการณ์ความเป็นอยู่ที่แท้จริงของทหารไทยอีกด้วย
ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล ประธานกรรมการเลขาธิการมูลนิธิ บำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดนในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า ได้พบเห็นสภาพการตรึงกำลังของทหารไทยที่บริเวณเขาพระวิหารแล้ว ทหารไทยทุกนายมีขวัญกำลังใจที่ดีมาก อีกทั้งมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงดีพร้อมที่จะปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติไทยอย่างเต็มที่ ซึ่งได้มอบพระและเงินสดให้กับทหารไทยทุกนายเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ
นอกจากนี้ ยังได้พบกับนายทหารระดับสูงของกัมพูชาหลายนายและได้ฝากกับทหารกัมพูชาว่า ขอให้ทหารกัมพูชากับทหารไทยรักกันอยู่กันอย่างพี่น้องไม่ควรที่ใช้กำลังเข้าปะทะกันอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของทั้ง 2 ฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน ตามฐานปฏิบัติการทุกแห่งของทั้งทหารไทยและทหารกัมพูชาได้มีการปรับพื้นที่ฐานปฏิบัติการให้รวมเป็นฐานกลุ่มใหญ่ จากเดิมที่ตั้งเป็นฐานกลุ่มย่อยกระจายรอบบริเวณตามแนวโดยรอบเขาพระวิหาร ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีในการเจรจาปรับลดกำลังทหารบริเวณเขาพระวิหารอยู่ในขณะนี้
วันนี้ (13 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.15 น.ที่บริเวณฐานปฏิบัติการร่องน้ำ ตามแนวขึ้นไปสู่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ทับซ้อนทางด้านทิศตะวันตกของเขาพระวิหาร 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่านผู้หญิง วิระยา ชวกุล ประธานกรรมการเลขาธิการมูลนิธิ บำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมบำรุงขวัญกำลังพลทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ตรึงกำลังอยู่บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร ดังกล่าว
โดยมี พ.อ.ชยันต์ หวยสูงเนิน รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และ นายประวัติ รัฐิรมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นำคณะนายทหารของกองกำลังสุรนารี และข้าราชการ ให้การต้อนรับ ซึ่งท่านผู้หญิงวิระยา ได้มอบเหรียญพระแก้วมรกต ซึ่งด้านหลังมีอักษรว่า “ภปร.” และเงินสดให้ทหารไทยที่ตรึงกำลังอยู่บริเวณชายแดนเขาพระวิหาร ทุกนายๆ ละ 500 บาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจด้วย
จากนั้นเวลา 15.00 น.วันเดียวกันนี้ คณะของท่านผู้หญิงวิระยา ได้ออกเดินทางไปที่ฐานปฏิบัติการโดนตรวจ และ ฐานปฏิบัติการบ้านซำแต ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเยี่ยมบำรุงขวัญทหารที่ประจำการอยู่ฐานปฏิบัติการแห่งนี้ โดยท่าน ผู้หญิงวิระยา ได้มอบเหรียญพระแก้วมรกต และเงินสดให้กับทหารพรานทุกนายๆ ละ 500 บาทเช่นกัน
พร้อมทั้งได้ตรวจเยี่ยมบริเวณฐานปฏิบัติการที่ทหารไทยตรึงกำลังอยู่เพื่อรับทราบสถานการณ์ความเป็นอยู่ที่แท้จริงของทหารไทยอีกด้วย
ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล ประธานกรรมการเลขาธิการมูลนิธิ บำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดนในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า ได้พบเห็นสภาพการตรึงกำลังของทหารไทยที่บริเวณเขาพระวิหารแล้ว ทหารไทยทุกนายมีขวัญกำลังใจที่ดีมาก อีกทั้งมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงดีพร้อมที่จะปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติไทยอย่างเต็มที่ ซึ่งได้มอบพระและเงินสดให้กับทหารไทยทุกนายเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ
นอกจากนี้ ยังได้พบกับนายทหารระดับสูงของกัมพูชาหลายนายและได้ฝากกับทหารกัมพูชาว่า ขอให้ทหารกัมพูชากับทหารไทยรักกันอยู่กันอย่างพี่น้องไม่ควรที่ใช้กำลังเข้าปะทะกันอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของทั้ง 2 ฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน ตามฐานปฏิบัติการทุกแห่งของทั้งทหารไทยและทหารกัมพูชาได้มีการปรับพื้นที่ฐานปฏิบัติการให้รวมเป็นฐานกลุ่มใหญ่ จากเดิมที่ตั้งเป็นฐานกลุ่มย่อยกระจายรอบบริเวณตามแนวโดยรอบเขาพระวิหาร ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีในการเจรจาปรับลดกำลังทหารบริเวณเขาพระวิหารอยู่ในขณะนี้