คนเชียงรายประสบภัยหนาวเกือบ 2 แสนคน จังหวัดประกาศเขตภัยพิบัติแล้ว

เชียงราย – จังหวัดฯ ประกาศเขตภัยพิบัติหนาวแล้ว หลังอากาศเย็นลงต่อเนื่อง พบยอดผู้ประสบภัยมีมากเกือบ 2 แสนคน เผยยังขาดแคลนเครื่องกันหนาวมากกว่า 2.2 แสนผืน ขณะที่มีงบฉุกเฉินแค่ 3 แสนบาท

วันนี้ (13 พ.ย.) สถานีอุตุนิยมวิทยา จ.เชียงราย แจ้งว่าอุณหภูมิในพื้นที่ จ.เชียงราย ลดต่ำลงเหลือเพียง 12.4 องศาเซลเซียส โดยเป็นอุณหภูมิที่ลดลงในระดับใกล้เคียงกันอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมาโดย วัดอุณหภูมิที่สถานีตั้งอยู่ ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย ได้ 13.7 องศาเซลเซียส วันที่ 11 พ.ย.วัดได้ 13.7 องศาเซลเซียส วันที่ 12 พ.ย.วัดได้ 12.3 องศาเซลเซียส

กระทั่งมาถึงเช้าวันที่ 13 พ.ย.อยู่ที่ 12.4 องศาเซลเซียส ซึ่งตามเกณฑ์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กำหนดว่าหากพื้นที่ใดมีอุณหภูมิลดต่ำลงกว่า 15 องศาเซลเซียสติดต่อกันเกิน 5 วัน ก็ให้จังหวัดดังกล่าวสามารถประกาศเป็นเขตพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินอันเกิดจากความหนาวเย็นได้

นายสุเทพ เดชชัยศรี หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ภายหลังได้รับทราบเรื่องอุณหภูมิที่ลดต่ำลงกว่าเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว ในวันนี้ (13 พ.ย.) ปภ.ก็ได้รวบรวมข้อมูลและส่งหนังสือถึงนายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เพื่อให้ลงนามในคำสั่งประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินอันเกิดจากความหนาวเย็นเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากว่าทางผู้ว่าลงนามประกาศแล้ว ทำให้จังหวัดสามารถนำงบประมาณฉุกเฉินจำนวน 300,000 บาท ออกมาช่วยเหลือชาวบ้านได้

อย่างไรก็ตาม ก็เป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้นเท่านั้น เพราะเงินจำนวนดังกล่าวสามารถนำไปหาซื้อผ้าห่มเพื่อแจกจ่ายชาวบ้านได้เพียง 1,000 กว่ารายเท่านั้น

ขณะที่การสำรวจผู้ที่กำลังประสบกับความหนาวเย็นใน จ.เชียงราย มีมากถึงกว่า 196,167 คน รวมผ้าห่มเครื่องกันหนาวที่ต้องการอีกกว่า 223,389 ผืน นอกจากนี้เชื่อว่าเมื่อความหนาวเย็นมีมากจริงๆ แต่ละคนคงไม่ได้ต้องการเพียงแค่คนละผืน แต่น่าจะต้องการมากถึง 2-3 ผืนต่อคนเพื่อให้สามารถอยู่ได้ด้วย

ดังนั้น ก่อนหน้านี้ ปภ.จ.เชียงราย จึงได้ร่วมกับหลายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนออกแจกจ่ายผ้าห่มกันหนาวไปแล้วเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด หรือเบียร์ช้าง ที่บริษัทให้จังหวัดกว่า 15,000 ผืน ส่วนเอกชนรายอื่นๆ ก็มีจำนวนมากเช่นกัน

การประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินยังทำให้สามารถแจ้งไปยังกรม ปภ.เพื่อขอให้มีการจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเพิ่มเติม จนทำให้เกิดความเพียงพอได้อีกโดยทางกรม ปภ.คงจะแจ้งไปยังกรมบัญชีกลาง เพื่อขอให้ยกเว้นเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณเพียงแค่ 300,000 บาทดังกล่าว เป็นจำนวนที่แท้จริงจากนั้นก็จะจัดสรรลงไปแต่ละพื้นที่ต่อไป

ทั้งนี้เมื่อปี 2550 เชียงราย ได้รับงบประมาณจากกรณีเดียวกันนี้จำนวนประมาณ 25 ล้านบาท ส่วนในปี 2551 นี้งบประมาณที่ได้รับอาจจะน้อยลงเนื่องจากการปรับลดงบประมาณแต่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกรมบัญชีกลาง-ปภ.อีกครั้งหนึ่ง แต่ก็เชื่อว่าจะช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้ชาวบ้านได้อย่างมาก

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเร็วๆ นี้นายสรวงศ์ เทียนทอง ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผู้แทนราษฎร นำคณะไปรับฟังความเห็นเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาความหนาวเย็นจากจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือได้แก่เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแพร่ พบว่าแต่ละจังหวัดต่างประสบปัญหาเดียวกัน คือ มีตัวเลขผู้ประสบภัยจากความหนาวเย็น และความต้องการเสื้อผ้าเครื่องกันหนาวเป็นจำนวนมาก

ขณะที่งบประมาณที่สามารถใช้ฉุกเฉิน กรณีประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินมีเพียง 300,000 บาท ซึ่งคำนวณกันว่าสามารถซื้อผ้าห่มกันหนาวได้เพียงประมาณ 1,800 ผืนเท่านั้น