xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ทัพเรือสำรวจประภาคารยุค ร.5 อ่าวสัตหีบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กองทัพเรือ และเจ้ากรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ขึ้นยอดเกาะจวง อ่าวแสมสาร สำรวจประภาคารพาหุรัตน์ ดวงประทีปแห่งท้องทะเลไทย ยุครัชกาลที่ 5 เก่าอันดับ 3 ของประเทศไทย เตรียมทำนุบำรุงและปรับปรุงพื้นที่เกาะ ไม่กระทบอนุรักษ์พันธุกรรมพืช

พล.ร.ท.ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พล.ร.ท.ศาสตราจารย์ นคร ทนุวงษ์ เจ้ากรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ พล.ร.ต.วรศักดิ์ จันหนู รองผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 พล.ร.ต.นภดล สุธัมมสภา รองผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 พล.ร.ต.ประทีป สุพินิจ เสนาธิการ ทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมนายทหารชั้นผู้ใหญ่ระดับผู้อำนวยการกอง ได้เดินทางโดยเรือยนต์เร็วหมายเลข 254 และเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง หมายเลข 223 จากท่าเทียบเรือ กองเรือยุทธการ อำเภอสัตหีบ จึงหวัดชลบุรี ไปยังหาดทรายด้านทิศตะวันตกของเกาะจวง ซึ่งเป็นบ้านพักสำหรับข้าราชการ และพลทหารที่ต้องรักษาความปลอดภัยดูแลประภาคารพาหุรัตน์ยุคปี ร.ศ. 115 อ่าวแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

ต่อมาคณะสำรวจได้เดินทางลาดชันจากบ้านพักขึ้นสู่ยอดเกาะจวง เพื่อสำรวจประภาคารพาหุรัตน์ ปี ร.ศ.115 ซึ่งเป็นประภาคารที่เก่าแห่งหนึ่งในประเทศไทย ในอันดับ 3 แต่ยังมีความสมบูรณ์สามารถใช้งานได้ด้วยแผงโซลาร์เซลล์ ผลิตพลังงานบรรจุไว้ในแบตเตอรี่เพื่อให้แสงสว่างกับดวงไฟประภาคาร หรือดวงประทีปแห่งท้องทะเลไทย

ชาวเรือถือกันว่า ประภาคาร เปรียบเสมือน “ดวงประทีปแห่งท้องทะเล” ประภาคารหมายถึงเครื่องหมายช่วยการเดินเรือที่มีความสำคัญมาก โดยใช้แสงไฟแสดงที่หมายในการนำเรือเข้าร่องน้ำอ่าวเขตท่าเรือหรือเตือนตำบลที่ที่เรือจะวิ่งเข้าหากองหินที่ตื้นและสิ่งกีดขวางที่เป็นอันตรายต่อการเดินเรือ

ดังนั้น ไฟดวงนี้จะดับไม่ได้จึงต้องมีเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลอยู่ตลอดเวลา และกรมอุทกศาสตร์ได้บรรจุตำแหน่งเจ้าหน้าที่ประภาคาร เพื่อควบคุมดูแลประภาคารเป็นเครื่องหมายช่วยการเดินเรือประเภทหนึ่งเป็น “แสงสว่าง” ที่ตั้งไว้ในตำบลที่หรือช่องทางสำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินเรือให้แก่ชาวเรือทั้งหลายที่สัญจรไปมาในท้องทะเล
กำลังโหลดความคิดเห็น