แพร่ – ชาวนาแพร่ทุกข์หนัก หลังน้ำป่าถล่มนาข้าวที่กำลังรอเก็บเกี่ยวจมโคลนร่วม 1,000 ไร่ จนต้องเร่งเก็บเกี่ยว-ลำเลียงหนีน้ำกันอย่างทุลักทุเล คาดฝนยังต่อต่อเนื่องอีก อาจทำให้น้ำป่าทะลักเพิ่ม
รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่แจ้งว่า หลังเกิดเหตุน้ำป่าจากเทือกเขาในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่เข็ก-แม่มาน ต.หัวฝาย อ.สูงเม่น ไหลบ่าเข้าท่วมนาข้าวที่แก่เต็มที่รอเก็บเกี่ยว กินบริเวณกว้างในหมู่ 3, 6, 12 ต.หัวฝาสย อ.สูงเม่น กว่า 800 ไร่ เมื่อวันที่ 2 พ.ย.51 ทำให้เกษตรกรชาวนาต้องช่วยกันขนย้ายข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้วรอขนย้ายขึ้นจากน้ำจากทุลักทุเลซึ่งมีหลายพื้นที่ได้รับความเสียหายแล้ว
นอกจากนี้ อบต.หัวฝาย ได้เข้าช่วยลำเลียงข้าวที่ยังไม่เสียหายขึ้นจากนา และเร่งนำเครื่องจักรเข้าขุดคันคลองชลประทานเพื่อให้น้ำป่าระบายลงสู่คูคลองอย่างรวดเร็ว ก่อนที่นาข้าวจะเสียหายหนัก เนื่องจากยังคงมีฝนตกหนักต่อไปอีก 2-3 วัน
นายบุญยงค์ กองศิลป์ นายก อบต.หัวฝาย กล่าวว่า ฝนตกติดต่อกันเพียง 2 วันเท่านั้นไม่คิดว่าจะมีน้ำป่าออกมา ซึ่งในปีนี้ชาวนาสามารถปลูกข้าวได้ผลผลิตดีเนื่องจากไม่มีปัญหาโรคแมลงและไม่มีน้ำท่วมตลอดฤดูฝนที่ผ่านมา จนขณะนี้เข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว มีอากาศหนาวเย็น และชาวนากำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่คิดว่าจู่ๆ จะมีฝนตกลงมา อย่างไรก็ตาม ทาง อบต.ได้สำรวจความเสียหายพบว่าข้าวที่เกี่ยวกองไว้มีข้าวเปลือกเน่าเสียไปแล้วและกำลังมีต้นข้าวที่จมน้ำกำลังเน่าเสียเพิ่มขึ้น ทางแก้คือต้องระบายน้ำออกให้เร็วที่สุด กำลังขอรถแบ็คโฮจาก อบจ.แพร่ เข้ามาขุดคันคลองชลประทานเพื่อขยายทางระบายน้ำให้ใหญ่ขึ้นเพื่อเร่งระบายน้ำให้เร็วที่สุด
ในขณะที่สถานีตรวจอากาศจังหวัดแพร่ รายงานว่า ทางสำนักพยากรอากาศกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกคำเตือนว่า หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมภาคกลางได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศพม่าแล้ว
สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ซึมลงมาถึงภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนส่งผลให้ร่องความกดอากาศต่ำกำลังปานกลางยังคงพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกของไทย
ลักษณะดังกล่าวจะทำให้ไทยตอนบนยังคงมีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักในบางพื้นที่โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลางด้านตะวันตก ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ หนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรีระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะนี้ และจะมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปร้อยละ 70 ของพื้นที่
โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 31 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม ในช่วงวันที่ 2-4 พ.ย.มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 5-8 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ และมีหมอกในตอนเช้า ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
โดยเชื่อว่าปริมาณน้ำที่ยังคงตกต่อเนื่องจะมีปริมาณน้ำท่วมในทุ่งนาเพิ่มขึ้นอีกจนถึงจุดอันตรายต่อต้นข้าวและกินบริเวณกว้างออกไปอีก