ฉะเชิงเทรา - อดีตประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว ระบุ ทั่วโลกหันซื้อไข่ไก่ไทย หลังไข่จากจีนพบสารปนเปื้อนเมลามีน ยังไม่ส่งผลต่อราคาขายไข่ไก่ในประเทศให้ขยับตัวสูงขึ้น เหตุมีการตกลงทำสัญญาซื้อขายไข่ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว แต่จะส่งผลดีทางด้านจิตวิทยา ในการต่อรองของตลาดบางแห่ง ที่มีการลดเงื่อนไขลง
นายสันติ วิโรจน์บริสุทธิ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 /4 ม.3 ต.คลองประเวศ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่ “ส.สิริฟาร์ม” อดีตประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ จ.ฉะเชิงเทรา (ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ จ.ฉะเชิงเทรา) กล่าวว่า จากการที่มีการตรวจพบสารปรนเปื้อนเมลามีนในไข่ไก่จากประเทศจีน และหลายประเทศทั่วโลกหันมาซื้อไข่ไก่จากประเทศไทยนั้น ขณะนี้ยังไม่ส่งผลต่อราคาขายไข่ไก่หน้าฟาร์มในประเทศให้ปรับตัวสูงขึ้นแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการทำสัญญาซื้อขายไข่ไก่ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ทั้งยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง แต่จะส่งผลดีเฉพาะที่ตลาด ฮ่องกงเท่านั้น ที่เดิมจะสั่งซื้อไข่ไก่จากจีนเป็นหลัก และจะมีข้อต่อรองตั้งเงื่อนไขในการสั่งซื้อไข่ไก่จากไทยเป็นอย่างมาก แต่หลังจากเกิดปัญหาพบสารปนเปื้อนเมลามีนในไข่ไก่จีน จึงได้มีการลดเงื่อนไขต่อรอง ในการสั่งซื้อลงมาบ้างแต่ถือว่าเป็นการสั่งซื้อจำนวนไม่มาก เมื่อเปรียบเทียบจากตลาดทั่วโลก
สำหรับราคาขายไข่ไก่หน้าฟาร์มในขณะนี้ ราคาไข่คละรวมอยู่ที่ฟองละ 2 บาท ไข่เบอร์ 0 ฟองละ 2.50 บาท เบอร์ 1 ฟองละ 2.40 บาท เบอร์ 2 ฟองละ 2.30 บาท เบอร์ 3 ฟองละ 2.20 บาท เบอร์ 4 ฟองละ 2.10 บาท ขณะที่ต้นทุนการผลิตตกอยู่ที่ฟองละ 2.20 บาท เนื่องจากราคาอาหารแพงขึ้น โดยอาหารสำเร็จรูป ราคากิโลกรัมละ 13 บาท จากเมื่อปีที่แล้ว (2550) ราคา กก.ละ 9.60 บาท
ฟาร์ม ส.สิริฟาร์ม ก่อนหน้ามีไก่ไข่อยู่จำนวน 2 แสนตัว ปัจจุบันเหลือ 1.4 แสนตัว สามารถผลิตไข่ไก่ได้วันละกว่า 1.3 แสนฟอง และจะยังไม่มีการเพิ่มกำลังการผลิตตามแนวโน้มความต้องการของตลาดแต่อย่างใด เนื่องจากปัจจุบันมีไข่ไก่ล้นตลาดอยู่แล้ว จากการผลิตในภาพรวมทั่วประเทศ สามารถผลิตไข่ไก่ได้มากถึงวันละ 27 ล้านฟอง ขณะที่ความต้องการในตลาดมีเพียง 25 ล้านฟอง ซึ่งปัจจุบันผู้เลี้ยงไก่ไข่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 5 ล้านฟองต่อวัน
