xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการ ม.บูรพาวิพากษ์ “สมชาย” ไม่เหมาะสม-ปล่อยปัญหาบานปลาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวศรีราชา - นักวิชาการ ม.บูรพา วิพากษ์ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ไม่มีความเหมาะสมที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ชี้หากสถานการณ์บ้านเมืองยังยืดเยื้อต่อไปจะยิ่งสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน ขณะที่ตัว “สมชาย” เองกลับไม่ยอมแก้ไขอะไรเลย แถมยังปล่อยให้บานปลายขึ้นทุกวัน

นายโอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ว่าอยู่ภาวะตึงเครียด ทั้งที่ตัวของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งบุคลิกท่าทางเป็นคนเรียบร้อย นิ่งสุขุม ด้วยวัฒนธรรมไทยไม่นิยมความรุนแรงและการปะทะ ซึ่งโดยภาพรวมแล้วถือว่าท่านเหมาะสมกับการบริหารประเทศ

แต่การขึ้นดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีนั้นถือว่าเร็วเกินไป ด้วยสาเหตุและเงื่อนไขในบางสถานการณ์ที่ยังไม่สมควรจะดำรงตำแหน่ง ซึ่งอาจจะด้วยเงื่อนไขของสถานการณ์ทางการเมือง หรือมาด้วยเงื่อนไขของอำนาจหรือการเมืองที่อยู่เบื้องหลังก็ตาม

โดยในความคิดส่วนตัวรู้สึกเสียดายที่นายสมชายมาเร็วไป เนื่องจากสถานการณ์บางอย่างบีบบังคับทำให้นายกรัฐมนตรีต้องแสดงบทบาทบางอย่างในภาวะทางการเมืองเช่นนี้ จึงรู้สึกว่านายสมชายยังไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งเป็นห่วงว่าจะเกิดสงครามกลางเมือง และคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่แนวทางการแก้ไขปัญหาในวันนี้ยังไม่เห็นแนวทางเลย ถึงแม้จะมีสถาบันพระปกเกล้า ออกมาพูดถึงเรื่องสานเสวนาสันติวิธีความรุนแรง ซึ่งเรื่องนี้คือความใฝ่ฝันที่ทุกคนอยากเห็น

แต่ในความเป็นจริงสถานการณ์ในขณะนี้เราไม่สามารถไปถึงความฝันหรือสิ่งนี้ได้เลย โดยเฉพาะ พื้นที่ตรงกลาง คือผู้ที่ไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใดจะอยู่อย่างไร ซึ่งคงต้องปล่อยให้นั่งและนอนอยู่อย่างนั้นหรือ

แต่อย่างไรก็ตาม จะยืนอยู่ตรงไหนและอยู่อย่างไรก็ต้องได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมืองไปด้วยเช่นกัน และหลายคนใฝ่ฝันว่าสังคมจะมีสันติ ซึ่งถือว่ายังเป็นไปไม่ได้ เพราะทุกวันนี้ความแตกแยกในสังคมปัจจุบันมันเป็นรอยร้าวฝังลึก ในหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมืองชาติไทย

นายโอฬาร กล่าวต่อว่า ในอดีตความขัดแย้งเกิดขึ้นเฉพาะกลุ่มคนชั้นนำของนักการเมือง , พวกนักธุรกิจทางการเมือง โดยเกิดขึ้นจากความขัดแย้งในเรื่องการต่อรองผลประโยชน์และมากล่าวโจมตีกันเปิดโปงกันในระบบการเมือง แต่สำหรับวันนี้ความขัดแย้งได้ลงลึกมาถึงระดับชุมชน กรณีเช่นประชาชนไปซื้อสินค้าจากแม่ค้าแล้วแม่ค้าไม่ขายของให้ เมื่อพบว่าบุคคล ดังกล่าวใส่เสื้อคนละสี

อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบว่านายกรัฐมนตรีนั้นเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นทั้งนักการเมืองและผู้นำประเทศ มิฉะนั้นใครที่จะมาพูดพาดพิง ระบบราชการ ต้องแสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้นำประเทศ คือความรับผิดชอบบางครั้ง อาจจะไม่ต้องรับผิดชอบทั้งหมดแต่ต้องมีความใส่ใจ เช่นในกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งไม่ได้หมายความว่านายกฯ ต้องไปตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาลงโทษเอง

แต่นายกรัฐมนตรีสามารถสั่งการได้ในสถานะผู้นำประเทศ ซึ่งต้องมีความชัดเจนมากกว่าที่จะมาโยนให้คนโน้นรับทีคนนี้รับที แต่จะต้องเป็นหน้าที่โดยตรงที่จะต้องรับผิดชอบ ทั้งที่ท่านนายกเคยดำรงตำแหน่งถึงปลัดกระทรวงยุติธรรมแต่ก็ไม่ได้ให้ความเคารพต่อคำตัดสินของกระทรวงยุติธรรม

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะชนะ แต่ผู้ที่แพ้แล้วคือประชาชนนั่นเอง ฝ่ายไหนดีไม่ดีไม่รู้ แต่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว ฝ่ายที่อยู่ตรงกลางจะเลือกข้างที่ให้ผลประโยชน์กับตัวเองมากที่สุด ไม่ว่า นปก. พธม. รัฐบาล ใครจะชนะ แต่คนที่แพ้ คือประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น