อุบลราชธานี - อาสาสมัครทหารพรานที่ถูกสะเก็ดระเบิดจากการปะทะกับทหารกัมพูชา ทำให้สมองบวมและนอนพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ได้เสียชีวิตอย่างสงบ เนื่องจากมีโรคแทรกซ้อนหลายโรค ญาติได้เคลื่อนศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดในวันเดียวกัน
จากกรณี อาสาสมัครทหารพรานบุญฤทธิ์ ขันตี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดจากการปะทะกับกำลังทหารกัมพูชา ขณะลาดตระเวนรักษาพรมแดนบริเวณภูมะเขือ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อบ่ายวันที่ 15 ต.ค.และถูกส่งตัวมารักษาให้ห้องผู้ป่วยหนัก รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี โดยมีอาการสมองบวมไม่รู้สึกตัวตามที่เสนอข่าวไปนั้น
เมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้ (21 ต.ค.) นายสุบิน ขันตี บิดาอาสาสมัครทหารพรานบุญฤทธิ์ ขันตี อายุ 40 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ ได้เสียชีวิตอย่างสงบ และญาติได้นำศพกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 28 บ้านไร่พัฒนา หมู่ 2 ต.ดงรัก อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านพักของบุตรชาย ส่วนกำหนดการตั้งบำเพ็ญกุศลกำลังหารือในกลุ่มญาติ
แต่เบื้องต้นหลังจัดการกระบวนการรับศพก็ได้เคลื่อนศพของอาสาสมัครทหารพรานบุญฤทธิ์กลับบ้านเกิดในเช้าวันเดียวกัน
สำหรับอาการที่ผ่านมาของอาสาสมัครทหารพรานบุญฤทธิ์อยู่ในขั้นวิกฤตมาโดยตลอด เพราะไม่รู้สึกตัว มีไข้ต่ำ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ชีพจรและความดันโลหิตควบคุมด้วยยา เพื่อให้ระดับการไหลเวียนเลือดคงที่ สมองบวม มีภาวะไตวายเฉียบพลัน ที่ผ่านมาคณะแพทย์หลายสาขาทั้งวิสัญญีแพทย์ แพทย์อายุรศาสตร์โรคไต ศัลยแพทย์ประสาท แพทย์อายุรกรรม ได้ช่วยกันดูแลรักษาอย่างเต็มที่ เพื่อให้อาสาสมัครทหารพรานบุญฤทธิ์มีชีวิตรอด แต่ก็มาเสียชีวิตในที่สุด
สำหรับอาสาสมัครทหารพรานบุญฤทธิ์ สมรสกับนางปริมากร ขันตี อายุ 28 ปี ปัจจุบันประกอบอาชีพขายของชำที่บ้านเกิด มีบุตรเป็นหญิง 1 คน ชื่อ ด.ญ.จุฬาภรณ์ ขันตี อายุ 8 ปี ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านนาตาว ต.ดงรัก อ.ภูสิงห์ ส่วนอาการบาดเจ็บของเพื่อนทหารพรานสังกัดเดียวกันอีก 10 ราย ปัจจุบันพ้นขีดอันตรายหมดแล้ว และยังคงนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลทหารค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ