ตราด - นายกสมาคมประมงตราดหวั่นปัญหาขัดแย้งไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบขาดแรงงาน ระบุ ประชาชน 2 ฝ่ายหวั่นกลัวอันตราย ด้านแรงงานกัมพูชาอพยพกลับแล้วกว่า 100 คน
นายฐิติกร โลหะคุปต์ นายกสมาคมประมง จ.ตราด เปิดเผยว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ระหว่างไทย-กัมพูชา ใน จ.ศรีษะเกษ และสุรินทร์ จนเกิดการปะทะขึ้นนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อชาวประมงในน่านน้ำ กัมพูชาของเรือประมงไทย (ตราด,ระยอง) ที่ได้เสียค่าน้ำในการทำประมงไปแล้วกว่า 50 คู่ ซึ่งผลที่เกิดขึ้นอาจจะไม่มากนักก็จริง เนื่องจากสถานการณ์เผาสถานฑูตไทยเมื่อหลายปีก่อน ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรเกี่ยวกับธุรกิจประมง มากนัก
สถานการณ์ครั้งนี้อาจจะมีผลกระทบสูง เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นจากแรงงานประมงชาวกัมพูชา ที่ไม่ไว้ วางใจในความรู้สึกของชาวไทยและเกรงว่า จะได้รับอันตรายจึงอาจจะต้องเดินทางกลับไปยังประเทศกัมพูชา จนอาจจะส่งผลกระทบต่อการขาดแคลนแรงงานใน จ.ตราด โดยเฉพาะแรงงานประมงที่มีความเสี่ยงมากที่สุด
“แรงงานกัมพูชาไม่ต้องการเดินทางกลับ เพราะการเข้า-ออก ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงแต่หากไม่มีความปลอดภัย ก็ต้องเดินทางกลับ ส่วนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาได้ติดต่อพูดคุยกันพบว่า สถานการณ์คนไทยในกัมพูชาไม่น่าไว้ใจเช่นกัน เพราะกลัวว่าหากอาศัยอยู่หรือทำธุรกิจอยู่อาจจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงได้มีการเตรียมตัวเพื่อจะเดินทางกลับ มาทันทีในวันหรือ 2 วันนี้”
ด้าน น.อ.ปริญญาธรรม พูลพิทักษ์ธรรม หน.หน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.เกาะกง เปิดเผยว่า หลังเวลา 20.00 น. ของวันที่ 15 ตุลาคม 2551 ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ไม่มีเหตุการณ์ใดที่ส่ง ผลกระทบในพื้นที่ แต่ก่อนหน้าที่จะปิดด่าน มีชาวไทยและชาวกัมพูชา โดยเฉพาะชาวกัมพูชาเดินทางออกจาก จ.ตราด จำนวนหนึ่ง ส่วนเรื่องการปิดด่านฯ หาดเล็กในวันนี้ ยังไม่มีแนวโน้มหรือปัจจัยอะไรที่จะปิดด่านฯชายแดนบ้าน หาดเล็ด
ด้านนายลิม สำพอน ผู้จัดการสำนักงาน บริษัท เกาะกง อินเตอร์เนชั่นแนล รีสอร์ทคลับ ที่จุดผ่านแดนถาวร กล่าวว่า ในช่วงค่ำยังไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ แต่เมื่อใกล้เวลาปิดด่านในเวลา 20.00 น. มีชาวกัมพูชาเดินทางออกจาก อ.คลองใหญ่กว่า 100 คน เนื่องจากไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
นายฐิติกร โลหะคุปต์ นายกสมาคมประมง จ.ตราด เปิดเผยว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ระหว่างไทย-กัมพูชา ใน จ.ศรีษะเกษ และสุรินทร์ จนเกิดการปะทะขึ้นนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อชาวประมงในน่านน้ำ กัมพูชาของเรือประมงไทย (ตราด,ระยอง) ที่ได้เสียค่าน้ำในการทำประมงไปแล้วกว่า 50 คู่ ซึ่งผลที่เกิดขึ้นอาจจะไม่มากนักก็จริง เนื่องจากสถานการณ์เผาสถานฑูตไทยเมื่อหลายปีก่อน ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรเกี่ยวกับธุรกิจประมง มากนัก
สถานการณ์ครั้งนี้อาจจะมีผลกระทบสูง เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นจากแรงงานประมงชาวกัมพูชา ที่ไม่ไว้ วางใจในความรู้สึกของชาวไทยและเกรงว่า จะได้รับอันตรายจึงอาจจะต้องเดินทางกลับไปยังประเทศกัมพูชา จนอาจจะส่งผลกระทบต่อการขาดแคลนแรงงานใน จ.ตราด โดยเฉพาะแรงงานประมงที่มีความเสี่ยงมากที่สุด
“แรงงานกัมพูชาไม่ต้องการเดินทางกลับ เพราะการเข้า-ออก ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงแต่หากไม่มีความปลอดภัย ก็ต้องเดินทางกลับ ส่วนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาได้ติดต่อพูดคุยกันพบว่า สถานการณ์คนไทยในกัมพูชาไม่น่าไว้ใจเช่นกัน เพราะกลัวว่าหากอาศัยอยู่หรือทำธุรกิจอยู่อาจจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงได้มีการเตรียมตัวเพื่อจะเดินทางกลับ มาทันทีในวันหรือ 2 วันนี้”
ด้าน น.อ.ปริญญาธรรม พูลพิทักษ์ธรรม หน.หน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.เกาะกง เปิดเผยว่า หลังเวลา 20.00 น. ของวันที่ 15 ตุลาคม 2551 ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ไม่มีเหตุการณ์ใดที่ส่ง ผลกระทบในพื้นที่ แต่ก่อนหน้าที่จะปิดด่าน มีชาวไทยและชาวกัมพูชา โดยเฉพาะชาวกัมพูชาเดินทางออกจาก จ.ตราด จำนวนหนึ่ง ส่วนเรื่องการปิดด่านฯ หาดเล็กในวันนี้ ยังไม่มีแนวโน้มหรือปัจจัยอะไรที่จะปิดด่านฯชายแดนบ้าน หาดเล็ด
ด้านนายลิม สำพอน ผู้จัดการสำนักงาน บริษัท เกาะกง อินเตอร์เนชั่นแนล รีสอร์ทคลับ ที่จุดผ่านแดนถาวร กล่าวว่า ในช่วงค่ำยังไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ แต่เมื่อใกล้เวลาปิดด่านในเวลา 20.00 น. มีชาวกัมพูชาเดินทางออกจาก อ.คลองใหญ่กว่า 100 คน เนื่องจากไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น