หนองคาย - นักท่องเที่ยวแน่นริมฝั่งโขงหนองคาย รอชมบั้งไฟพญานาค คาด นักท่องเที่ยวนับแสนคนไม่ต่ำกว่าปีที่แล้ว แนะจุดชมบั้งไฟที่ขึ้นแน่ 2 อำเภอหลัก อำเภอโพนพิสัย กับ อำเภอรัตนวาปี
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศโดยทั่วไปในช่วงบ่ายถึงใกล้ค่ำเวลาประมาณ 16.30 น.วันนี้ (14 ต.ค.) นักท่องเที่ยวหลายหมื่นคนเข้าจับจองพื้นที่รอชมบั้งไฟพญานาค บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงหน้าวัดไทย เขตเทศบาลตำบลโพนพิสัย อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ซึ่งเป็นจุดหลักในการชมบั้งไฟพญานาค ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลมารอชมบั้งไฟพญานาคกันตั้งแต่เช้า จับจองที่นั่ง กางเต็นท์นอนริมฝั่งโขงจนแน่นขนัด รอกระทั่งเวลาพลบค่ำที่จะได้ชมบั้งไฟพญานาคปรากฏให้เห็น
โดยในปี 2550 มีนักท่องเที่ยวประมาณ 2 แสนคน และสำหรับในปีนี้นักท่องเที่ยว คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะไม่ต่างจากปีที่ผ่านมามากนัก แม้ว่าในระยะแรกเหมือนว่านักท่องเที่ยวมีไม่มาก แต่พอถึงวันออกพรรษากลับมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าพื้นที่อย่างไม่ขาดสาย
สถิติจำนวนบั้งไฟพญานาค เมื่อปี 2550 มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้น 2 วัน รวม 253 ลูก จุดที่พบมีบั้งไฟพญานาคขึ้นมาก มี 2 อำเภอ คือ ที่ อ.โพนพิสัย บริเวณหน้าวัดหลวง หน้าวัดไทย ต.จุมพล บ้านใหม่ บ้านหนองกุ้งเหนือ หนองกุ้งใต้ ต.กุดบง ส่วนที่ อ.รัตนวาปี บริเวณบ้านน้ำเป บ้านท่าม่วง บ้านตาลชุม บ้านหนองแก้ว ต.รัตนวาปี บ้านเปงจาน บ้านโพนแพง ต.โพนแพง บ้านดอนเหมือด ต.บ้านต้อน
บั้งไฟพญานาค จะมีลักษณะเป็นลูกไฟสีแดงอมชมพู ผุดขึ้นกลางแม่น้ำโขง สูงประมาณ 50 เมตร แล้วหายไป ไม่มีกลิ่น ไม่มีควัน ไม่มีเสียง มักจะเกิดบั้งไฟพญานาคตั้งแต่ช่วงพลบค่ำ เรื่อยไปจนถึงประมาณ 23.00 น.ของวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11
ในปีนี้ชาวหนองคาย เชื่อว่า บั้งไฟพญานาคจะเกิดขึ้นมาก เนื่องจากปีนี้จังหวัดหนองคายเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงมีมาก อินทรีย์สารในแม่น้ำโขงที่เป็นสาระสำคัญในการเกิดบั้งไฟพญานาคก็มีมากตามไปด้วย อีกทั้งตามความเชื่อของชาวบ้านหากปีไหนออกพรรษาไทยและลาวตรงกัน ปีนั้นจะมีบั้งไฟพญานาคมาก และปีนี้ออกพรรษาไทยกับลาวก็ตรงกันด้วย
ดังนั้น จึงมีความเชื่อเป็นอย่างมากว่าบั้งไฟพญานาคจะเกิดขึ้นให้นักท่องเที่ยวได้เห็นอย่างเช่นทุกปีที่ผ่านมา