เชียงราย - ตำรวจเชียงรายสกัดยาบ้าจากชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย 30,000 เม็ด และจับกุมสองแม่ลูกชาวไทยภูเขาขนยาบ้าเข้ากรุงเทพ 1,985 เม็ด สารภาพรับจ้างมาจากดอยวาวีนำส่งลูกค้าภาคกลาง
เช้าวันนี้ (7 ต.ค.) นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ ผบก.ภ.จ.เชียงราย พ.ต.อ.ประทักษ์ เจริญศิลป์ รองผู้บังคับการฯ พ.ต.อ.สมสง่า ชรินทร์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงราย พ.ต.ท.ชยันต์ ปัญญาเครือ รอง ผกก.สส.สภ.แม่สาย จ.เชียงราย แถลงข่าวการจับยาเสพติดรายสำคัญ ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงราย
โดยก่อนหน้านี้ตำรวจ สภ.แม่สาย ได้ตั้งจุดสกัดที่สี่แยกบ้านสันผักฮี้ ม.3 ต.แม่สาย อ.แม่สาย พบ นายเหลา สุขแก้ว อายุ 37 ปี อยู่บ้านลเขที่ 6/9 ม.47 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ขี่จักรยานยน ทะเบียน ขมษ-414 เชียงราย ผ่านมาจึงตรวจค้นพบยาบ้า 3 แพก รวม 30,000 เม็ด ซุกซ่อนในกระสอบที่วางหน้าตะกร้าหน้ารถ ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพว่ารับจ้างนายทุนให้รับยาบ้าจากชายแดนไทย-พม่า ให้นำมาส่งในพื้นที่ จึงนำตัวมาดำเนินคดี
อีกราย ด.ต.พรชัย คงเพ็ชร และ ด.ต.ปฏิวัติ ภูมิพลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองเชียงราย ประจำสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.เชียงราย นำกำลังออกตรวจค้นจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด หลังพบว่าจะมีการขนยาบ้าขึ้นรถโดยสารมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ต่อมาได้ขึ้นไปตรวจค้นรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ บริษัทสมบัติทัวร์ สายเชียงราย-กรุงเทพฯ หมายเลขข้างรถ 90-13 จอดรับผู้โดยสารที่ชานชาลาที่ 11 พบคู่ชายหญิงนั่งอยู่ที่นั่ง 1b, 1c ท่าทางส่อพิรุธ จึงเชิญตัวมาตรวจค้น
โดยจากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง พบที่เป้ากางเกง นางหมี่จู วงศ์รัตนการุณ อายุ 42 ปี ชาวเขาเผ่าอาข่า อยู่บ้านเลขที่ 172 ม.12 ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย มียาบ้าซ่อนอยู่ จำนวน 1,985 เม็ด จึงจับกุมตัวเอาไว้ พร้อมด้วย นายพิชญกานต์ วงศ์รัตนการุณ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน ลูกชายนางหมี่จู ที่เดินทางมาด้วยกัน มาส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองเชียงราย
สอบสวนนางหมี่จู รับสารภาพว่า ต้องการใช้เงินมาเลี้ยงดูครอบครัว เนื่องจากไม่มีสามี ทำให้ภาระทุกอย่างตกอยู่ที่ตน ไม่รู้จะไปหาเงินได้จากที่ไหนให้เพียงพอ ต่อมาได้รู้จักกลุ่มชาวเขากลุ่มหนึ่ง ว่าจ้างให้มาขนยาบ้าแล้วจะได้เงินตอบแทนจำนวนมาก จึงตอบตกลงมาเข้าร่วมขบวนการ โดยก่อนถูกจับกุมได้นำยาบ้าล็อตนี้จากดอยวาวี เพื่อนำไปส่งขบวนการที่หน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อแลกค่าจ้างจำนวน 20,000 บาท แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน
