อธิการ มช.สั่งฟ้าแลบเลิกเสวนา"การเมืองใหม่" พันธมิตรถามเหตุผลเที่ยงพรุ่งนี้

เชียงใหม่ – อธิการบดี มช.ทำพิลึกสั่งยกเลิกการใช้หอศิลปวัฒนธรรมจัดเสวนา"การเมืองใหม่" กระทันหัน อ้างมีพันธมิตรฯ ร่วมจัดด้วย ด้านแกนนำพันธมิตรฯ เชียงใหม่เตรียมทวงถามเหตุผลที่ตึกอธิการฯ เที่ยงพรุ่งนี้

รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเชียงใหม่และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ จะจัดเวทีเสวนาวิชาการ เรื่อง“ข้อเสนอต่อสังคมการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบัน” ที่โรงละครหอศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันพรุ่งนี้(5 ต.ค.51) นั้น ล่าสุด ศ.ดร.พงษ์ศักดิ์ อังกสิทธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้สั่งยกเลิกการใช้โรงละครหอศิลปะและวัฒนธรรมเป็นสถานที่จัดเสวนาแล้ว โดยอ้างเหตุผลว่าเนื่องจากการเสวนาครั้งนี้มีพันธมิตรฯ เข้าร่วมด้วย

สำหรับ ศ.ดร.พงษ์ศักดิ์ เป็นหนึ่งใน 24 อธิการบดีที่ยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อให้รัฐบาลทำการปฏิรูปการเมืองการปกครองเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติประเทศ คำสั่งยกเลิกการใช้สถานที่ดังกล่าวสร้างความสงสัยให้กับแกนนำพันธมิตรฯ เชียงใหม่เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากการเสวนาครั้งนี้เป็นงานวิชาการล้วนๆ ไม่มีการชุมนุมแต่อย่างใด และเหตุใดอธิการบดีจึงสั่งยกเลิกอย่างกระชั้นชิดเช่นนี้ โดยเมื่อเช้าที่ผ่านมา นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ผู้ประสานงานพัธมิตรฯ เชียงใหม่ เพิ่งเข้ายื่นหนังสือถึงผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อขอให้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหามาตรการคุ้มครองดูแลความปลอดภัยในการเสวนาครั้งนี้

รายงานล่าสุดแจ้งว่า ในวันพรุ่งนี้ (5ต.ค.) เวลา 12.00 น. พันธมิตรฯ เชียงใหม่จะรวมตัวกันเพื่อไปถามเหตุผลของการสั่งยกเลิกการใช้สถานที่จัดเสวนาที่ตึกอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีพันธมิตรฯ นับ 100 คนที่เดินทางไปร่วมงานแล้วพบว่าไม่มีการจัดงาน ก็จะไปที่ตึกอธิการบดีด้วย

อนึ่ง สำหรับการจัดเวทีวิชาการในวันพรุ่งนี้(5 ต.ค.51) ของพันธมิตรจังหวัดเชียงใหม่และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ เป็นการจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยการจัดเวทีครั้งแรกเป็นการจัดเวทีวิชาการเรื่อง “มองการเมืองประเทศไทยผ่านสถานการณ์ปัจจุบัน” เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.51 ที่โรงแรมเชียงใหม่รัตนโกสินทร์ ส่วนครั้งที่ 2 เป็นเวทีเสวนาวิชาการเรื่อง “แนวโน้มสถานการณ์ประเทศไทยหลังกรณีเขาพระวิหาร” เมื่อวันที่ 13 ก.ค.51 ที่โรงยิมเนเซียม 3 สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งในครั้งนี้ปรากฏว่ามีกลุ่มต่อต้านพันธมิตรฯ หลายร้อยคนทำการปิดล้อมบริเวณโดยรอบและใช้สิ่งของขว้างปาใส่ผู้เข้าร่วมเวที ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บบางส่วน โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถดูแลความปลอดภัยได้อย่างเต็มที่