มหาสารคาม - ชาวบ้านจาก 3 หมู่บ้านในเขตอำเภอเมืองมหาสารคามกว่า 300 คน รวมตัวชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัด เรียกร้องให้ทางชลประทานปิดประตูระบายน้ำ โวยผู้ว่าฯ ผิดสัญญาไม่ตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อระบายน้ำออก ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหายเพิ่มเติมอีกกว่า 1,000 ไร่ พร้อมกดดันให้ปิดประตูน้ำทันที
หลังจากที่ฝนตกติดต่อตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำชีมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และล้นตลิ่งแผ่ขยายออกท่วมพื้นที่การเกษตรของประชาชน ในหลายอำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่ติดแม่น้ำชี ในแถบตำบลเกิ้ง ตำบลลาดพัฒนา และตำบลท่าตูม ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วกว่า 10,000 ไร่ โดยทางชลประทานจังหวัดมหาสารคามได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 บาน เพื่อเร่งระบายน้ำออก
ส่งผลให้พื้นที่การเกษตรในแถบตอนล่างดังกล่าวได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกว่า 1,000 ไร่ ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันกว่า 300 คน มาที่ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม เพื่อเรียกร้องให้ปิดประตูระบายน้ำทั้งหมด เพื่อไม่ให้พื้นที่การเกษตรเสียหายเพิ่มเติม พร้อมกับทวงสัญญากับนายรังสรรค์ เพียรอดวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เรื่องที่รับปากชาวบ้านว่าจะนำเครื่องสูบน้ำจำนวน 10 เครื่อง เพื่อให้ชาวบ้านสูบน้ำออก โดยก่อนหน้านั้นชาวบ้านได้รวมตัวที่หน้าศาลากลางจังหวัดมหาสารคามมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยทางจังหวัดรับปากว่าจะนำเครื่องสูบน้ำไปตั้งไว้ให้ที่บ้านกุดแดง แต่ผ่านมาหลายวันแล้วก็ไม่เห็นนำเครื่องสูบน้ำไปให้ชาวบ้าน แต่กลับปล่อยน้ำออกมา ทำให้พื้นที่การเกษตรของชาวบ้านเสียหายเพิ่มเติม
บ่ายวานนี้( 3 ต.ค.) ชาวบ้าน จึงได้รวมตัวกันมาทวงสัญญาที่เคยให้ไว้ และอยากขอความเป็นธรรมจากนายรังสรรค์ เพียรอดวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม แต่เมื่อรวมตัวกันมาที่ศาลากลาง กลับไม่มีคำชี้แจงจากผู้ว่าฯ หรือตัวแทนใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหากไม่ได้รับคำตอบ ชาวบ้านจะรวมตัวกันไปปิดประตูระบายน้ำเอง จะไม่รอให้ทางชลประทานมาปิดให้ เพราะชาวบ้านเดือดร้อนมามากแล้ว
จากนั้นชาวบ้านส่วนหนึ่งได้พากันมาที่บริเวณประตูระบายน้ำที่ตั้งอยู่บริเวณสำนักงานชลประทานจังหวัดมหาสารคาม เพื่อกดดันให้ชลประทานปิดประตูระบายน้ำทันที โดยทางชลประทาน ได้ทำการปิดประตูน้ำเป็นการชั่วคราวก่อน และเรียกประชุมเจ้าหน้าที่บริหารจัดการน้ำ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
หลังจากที่ฝนตกติดต่อตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำชีมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และล้นตลิ่งแผ่ขยายออกท่วมพื้นที่การเกษตรของประชาชน ในหลายอำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่ติดแม่น้ำชี ในแถบตำบลเกิ้ง ตำบลลาดพัฒนา และตำบลท่าตูม ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วกว่า 10,000 ไร่ โดยทางชลประทานจังหวัดมหาสารคามได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 บาน เพื่อเร่งระบายน้ำออก
ส่งผลให้พื้นที่การเกษตรในแถบตอนล่างดังกล่าวได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นอีกว่า 1,000 ไร่ ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันกว่า 300 คน มาที่ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม เพื่อเรียกร้องให้ปิดประตูระบายน้ำทั้งหมด เพื่อไม่ให้พื้นที่การเกษตรเสียหายเพิ่มเติม พร้อมกับทวงสัญญากับนายรังสรรค์ เพียรอดวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เรื่องที่รับปากชาวบ้านว่าจะนำเครื่องสูบน้ำจำนวน 10 เครื่อง เพื่อให้ชาวบ้านสูบน้ำออก โดยก่อนหน้านั้นชาวบ้านได้รวมตัวที่หน้าศาลากลางจังหวัดมหาสารคามมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยทางจังหวัดรับปากว่าจะนำเครื่องสูบน้ำไปตั้งไว้ให้ที่บ้านกุดแดง แต่ผ่านมาหลายวันแล้วก็ไม่เห็นนำเครื่องสูบน้ำไปให้ชาวบ้าน แต่กลับปล่อยน้ำออกมา ทำให้พื้นที่การเกษตรของชาวบ้านเสียหายเพิ่มเติม
บ่ายวานนี้( 3 ต.ค.) ชาวบ้าน จึงได้รวมตัวกันมาทวงสัญญาที่เคยให้ไว้ และอยากขอความเป็นธรรมจากนายรังสรรค์ เพียรอดวงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม แต่เมื่อรวมตัวกันมาที่ศาลากลาง กลับไม่มีคำชี้แจงจากผู้ว่าฯ หรือตัวแทนใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหากไม่ได้รับคำตอบ ชาวบ้านจะรวมตัวกันไปปิดประตูระบายน้ำเอง จะไม่รอให้ทางชลประทานมาปิดให้ เพราะชาวบ้านเดือดร้อนมามากแล้ว
จากนั้นชาวบ้านส่วนหนึ่งได้พากันมาที่บริเวณประตูระบายน้ำที่ตั้งอยู่บริเวณสำนักงานชลประทานจังหวัดมหาสารคาม เพื่อกดดันให้ชลประทานปิดประตูระบายน้ำทันที โดยทางชลประทาน ได้ทำการปิดประตูน้ำเป็นการชั่วคราวก่อน และเรียกประชุมเจ้าหน้าที่บริหารจัดการน้ำ เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป