จันทบุรี - ชุดสืบกองกำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี จัดแถลงข่าวการจับกุมแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ได้ผู้ต้องหา 6 คน พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ 6 คัน
วันนี้ (3 ต.ค.) ที่กองกำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พล.ต.ต.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผู้บังคับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พ.ต.อ.วีระชัย วิสุทธิอุทัยกุล รองผู้บังคับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบของกองกำกับการตำรวจภูธร ได้จัดแถลงข่าวการจับกุมแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี
โดยก่อนทำการจับกุมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ ได้สืบทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์เป็นแก็งค์โจรกรรมรถจักรยานยนต์ในเขตจังหวัดจันทบุรี และมีรถที่ได้จากการโจรกรรมมามีอยู่หลายคัน จึงวางแผนโดยให้สายเข้าไปล่อซื้อรถจักรยานยนต์เวฟ จำนวน 1 คัน ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาตกลงขายให้ในราคา 3,000 บาท จึงวางแผนและทำการจับกุมได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน คือ
1.นายมงคล หรือ โจ ยินสูตร อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 ม.5 ต.คมบาง อ.เมือง จ.จันทบุรี 2.นายวิวัฒน์ หรือ แน๊ค สืบวงค์รุ่ง อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ม.6 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.จันทบุรี 3.นายบุญส่ง หรือ อาร์ต สุขมณี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ม.8 ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี 4.นายเอกรัฐ หรือ เอก ใจชื่น อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 ม.1 ต.บางสระเก้า อ.เมือง จ.จันทบุรี และ5.นายเอกพจน์ หรือ เบ็ส ใจชื่น อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 ม.6 ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี พร้อมรถจักรยานยนต์ของกลางจำนวน 6 คัน และ อะไหร่รถจักรยานยนต์จำนวนหนึ่ง
โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า จะตระเวนออกลักรถจักรยานยนต์ในเวลาหลังเที่ยงคืน เนื่องจากปลอดคน โดยจะแบ่งหน้าที่กันทำงาน ในแต่ละครั้งจะไปลักรถประมาณ 2-4 คน ซึ่งจะมีคนดูต้นทาง 1 คน อีก 1-2 คน ขับรถไปส่งและรอ ส่วนอีก 1 คน จะลงไปลักรถโดยใช้เหล็กรูปตัวทีแทงไปในรูกุญแจ เพื่อทำลายระบบนิรภัย
จากนั้นก็จะขับรถหนีไปโดยใช้เวลาในการโจรกรรมรถ 1 คัน ประมาณ 3 นาที จากนั้นจะนำรถที่โจรกรรมไปแยกชิ้นส่วน เพื่อขายตามร้านรับซื้อของเก่า บางคันนำออกขายทั้งคัน หรือเก็บไว้ใช้เอง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ยังรับสารภาพว่า ได้ทำการลักรถจักรยานยนต์ในเขตจังหวัดจันทบุรีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 คัน และยังดัดแปลงแผ่นป้ายทะเบียนรถด้วย ส่วนเงินที่ได้ก็จะนำไปแบ่งกันและเที่ยวเตร่และดื่มสุรา
วันนี้ (3 ต.ค.) ที่กองกำกับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พล.ต.ต.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผู้บังคับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พ.ต.อ.วีระชัย วิสุทธิอุทัยกุล รองผู้บังคับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบของกองกำกับการตำรวจภูธร ได้จัดแถลงข่าวการจับกุมแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี
โดยก่อนทำการจับกุมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ ได้สืบทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์เป็นแก็งค์โจรกรรมรถจักรยานยนต์ในเขตจังหวัดจันทบุรี และมีรถที่ได้จากการโจรกรรมมามีอยู่หลายคัน จึงวางแผนโดยให้สายเข้าไปล่อซื้อรถจักรยานยนต์เวฟ จำนวน 1 คัน ซึ่งกลุ่มผู้ต้องหาตกลงขายให้ในราคา 3,000 บาท จึงวางแผนและทำการจับกุมได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน คือ
1.นายมงคล หรือ โจ ยินสูตร อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 ม.5 ต.คมบาง อ.เมือง จ.จันทบุรี 2.นายวิวัฒน์ หรือ แน๊ค สืบวงค์รุ่ง อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ม.6 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.จันทบุรี 3.นายบุญส่ง หรือ อาร์ต สุขมณี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ม.8 ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี 4.นายเอกรัฐ หรือ เอก ใจชื่น อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 ม.1 ต.บางสระเก้า อ.เมือง จ.จันทบุรี และ5.นายเอกพจน์ หรือ เบ็ส ใจชื่น อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/1 ม.6 ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี พร้อมรถจักรยานยนต์ของกลางจำนวน 6 คัน และ อะไหร่รถจักรยานยนต์จำนวนหนึ่ง
โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า จะตระเวนออกลักรถจักรยานยนต์ในเวลาหลังเที่ยงคืน เนื่องจากปลอดคน โดยจะแบ่งหน้าที่กันทำงาน ในแต่ละครั้งจะไปลักรถประมาณ 2-4 คน ซึ่งจะมีคนดูต้นทาง 1 คน อีก 1-2 คน ขับรถไปส่งและรอ ส่วนอีก 1 คน จะลงไปลักรถโดยใช้เหล็กรูปตัวทีแทงไปในรูกุญแจ เพื่อทำลายระบบนิรภัย
จากนั้นก็จะขับรถหนีไปโดยใช้เวลาในการโจรกรรมรถ 1 คัน ประมาณ 3 นาที จากนั้นจะนำรถที่โจรกรรมไปแยกชิ้นส่วน เพื่อขายตามร้านรับซื้อของเก่า บางคันนำออกขายทั้งคัน หรือเก็บไว้ใช้เอง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ยังรับสารภาพว่า ได้ทำการลักรถจักรยานยนต์ในเขตจังหวัดจันทบุรีมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 คัน และยังดัดแปลงแผ่นป้ายทะเบียนรถด้วย ส่วนเงินที่ได้ก็จะนำไปแบ่งกันและเที่ยวเตร่และดื่มสุรา