xs
xsm
sm
md
lg

ชัยภูมิเตือนปชช.อย่าตื่นเกินเหตุ - ชี้รอยแยกสันเขาไม่กระทบตัว“เขื่อนลำปะทาว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รอยแยกพื้นดินหลายจุดบนเทือกเขาภูแลนคา ใกล้กับสันเขื่อนลำปะทาวตอนล่าง ต.ท่าหินโหม อ.เมือง จ. ชัยภูมิ ทางจังหวัดฯรุดตรวจสอบมั่นใจไม่กระทบโครงสร้างเขื่อน วันนี้ ( 27 ก.ย.)
ชัยภูมิ – ทางจังหวัดชัยภูมิเตือนปชช.อย่าตื่นตระหนกเกินเหตุ กับข่าว“เขื่อนลำปะทาว” แตก ! น้ำไหลทะลักท่วมเมืองหลังพบรอยแยกของพื้นดินบริเวณเขื่อนลำปะทาวตอนล่าง ตรวจสอบเบื้องต้นระบุรอยแยกอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ห่างจากชุมชนกว่า 20 กิโลเมตร และไม่มีกระทบต่อโครงสร้างเขื่อน แต่เพื่อความไม่ประมาทเร่งประสานเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงด่วน

วันนี้ ( 27 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีข่าวว่า พบรอยแยกบนพื้นดินหลายจุดบนเทือกเขาภูแลนคา ใกล้กับสันเขื่อนลำปะทาวตอนล่าง ต.ท่าหินโหม อ.เมือง จ. ชัยภูมิ อยู่ห่างจากตัวจังหวัดชัยภูมิประมาณ 50 กิโลเมตร และได้สร้างความหวั่นวิตกว่าจะเกิดเขื่อนแตกน้ำทะลักเข้าท่วมตัวเมืองชัยภูมินั้น ล่าสุด นายนิมิต จันทร์วิมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย นายอนุชิต ขันธะมูล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยภูมิ , นายประสพ จงรั้งกลาง หัวหน้าเขื่อนลำปะทาวตอนล่าง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รุดไปตรวจสอบข้อเท็จจริง บริเวณที่พบรอยแยกดังกล่าว

นายนิมิต จันทน์วิมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า หลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รอยแยกของผิวดินบนเทือกเขาภูแลนคา เกิดขึ้นอยู่บริเวณสันเขาใกล้สปิลเวย์ท้ายเขื่อนลำปะทาว มีความลึกประมาณ 1 เมตร รอยแยกห่างออกจากกันประมาณ 10 เซนติเมตร รวมความยาวเกือบ 100 เมตร อาจเกิดจากการกัดเซาะของทางน้ำในช่วงที่ฝนตกหนัก แต่เพื่อความไม่ประมาท ได้เร่งให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยภูมิ ประสานเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรธรณี มาตรวจสอบรอยแยกดังกล่าวเกิดจากอะไรแน่ และจะลึกถึงชั้นหินใต้ดินหรือไม่

จึงขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกกับข่าวที่แพร่ออกไปเกินกว่าเหตุ เพราะรอยแยกอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ห่างจากที่พักอาศัยของชุมชนประมาณ 20 กิโลเมตร และไม่มีผลกระทบกับโครงสร้างของเขื่อนแต่อย่างใด เพราะอยู่บริเวณท้ายเขื่อน

ส่วนกรณีที่มีชาวบ้านชอบมาหาปลาบริเวณท้ายเขื่อนเพราะมีปลาชุกชุมนั้น ได้ให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยภูมิแจ้งประชาชนในพื้นที่งดออกหาปลาบริเวณท้ายเขื่อน จนกว่าได้ผลพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยกรธรณีเสียก่อน ขณะเดียวกันยังได้สั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะนี้สถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปะทาว ตอนบน สามารถจุน้ำได้ 44 ล้านลูกบาศก์เมตร ( ลบ.ม.) สำหรับเขื่อนลำปะทาว ตอนล่าง มีความจุ 16.4 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีระดับน้ำที่ล้นสปิลเวย์ล่าสุดได้ลดลงวัดได้ที่ 18 เซนติเมตร หากฝนไม่ตกในระยะนี้ เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบน้ำท่วมในตัวเมืองชัยภูมิอีกอย่างแน่นอน





เมืองชัยภูมิยังจมบาดาล! สั่งปิด ร.ร.ทุกแห่ง-รพ.หนักสุดใช้เรือ/สะพานไม้รับส่งผู้ป่วย
เมืองชัยภูมิยังจมบาดาล! สั่งปิด ร.ร.ทุกแห่ง-รพ.หนักสุดใช้เรือ/สะพานไม้รับส่งผู้ป่วย
ชัยภูมิ-เมืองชัยภูมิยังจมบาดาลเป็นวันที่ 4 สถานที่ราชการสำคัญ ทั้ง ศาลากลางจังหวัดฯ -สถานีตำรวจ- ศาลจังหวัด –สาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล และธนาคารพาณิชย์ น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตรสถานศึกษาทั้ง 15 แห่งสั่งปิด 3 วัน ปชช.ต้องอาศัยรถบรรทุกของหน่วยงานต่างๆ เดินทางสัญจร ส่วนรพ.ชัยภูมิหนักสุด ทางเข้าท่วมสูง 1.5 เมตร ต้องใช้เรือท้องแบน-รถบรรทุกและสะพานไม้รับส่งผู้ป่วย บ้านพักเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาลจมน้ำใช้รพ.เป็นที่พักชั่วคราว เผยระดมเร่งระบายน้ำออกจากตัวเมืองลงแม่น้ำชีตลอด 24 ชม.
กำลังโหลดความคิดเห็น