ตราด – เกาะกง เผยเปิดหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ส่งผลดีทำให้ชาวบ้านมีรายได้และเป็นแหล่งท่องเที่ยว
วันนี้ (26 ก.ย.) ที่บ้านบางขยัก ต.เปียมกระสอบ อ.มณฑลสีมา ที่ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 48 (เกาะกง-สแรอัมเบิล) นายยุทธ ภูทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด ร่วมกับ นายสมศักดิ์ โยนกพันธ์ รองผู้ว่าราชการจ.ตราด ร่วมทำพิธีเปิด หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงแบบมีส่วนร่วม ณ บ้านบางขยัก มี นายวีรพันธ์ วัชราทิศ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา นายวิชล มนัสเอื้อศิริ รองอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน นายเรืองฤทธิ์ กรมเกลี้ยง พัฒนาการจังหวัดตราด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน จ.ตราด และชาวบ้านบ้านบางขยัก นำโดยนายติ๊ด จุติ กำนัน ต.เปียมกระสอบ นายเชง สีหนาด ผู้ใหญ่บ้านร่วม
สำหรับการเปิดหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงแบบยั่งยืน ของหมู่บ้านบางขยักครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงมาขยายผลการดำเนินงาน ในหมู่บ้านบางขยักเพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาหมู่บ้านให้กับประชาชนชาวกัมพูชา เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และใช้เป็นแหล่งศึกษาดูงานเพื่อขยายผลไปยังหมู่บ้านอื่นๆ ในจังหวัดเกาะกง และประเทศกัมพูชา
โครงการนี้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2550 โดยนำคณะกรรมการหมู่บ้านและกลุ่ม ชาวบ้านไปศึกษาดูงาน และอบรมแนวความคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ประเทศไทย จนประชาชนชาวบ้านบางขยัก ได้เกิดความเข้าใจและนำมาปฏิบัติในปีแรกจนได้ผล จากนั้นจึงได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 2 โดยเน้นให้ความรู้ความเข้าใจและการสร้างอาชีพ การจัดทำแผนชุมชน การลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ ซึ่งเป็นหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทำให้ประชาชนสามารถเรียนรู้ในทางปฏิบัติจนเกิดผลในทางปฏิบัติ ประชาชนมีรายได้มากขึ้นมีรายจ่ายลดลง จนปัจจุบันนี้ประชาชนในหมู่บ้านบางขยัก มีอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยไม่มีหนี้สิน
นายเชง สีหนาด กล่าวว่า เมื่อก่อนหมู่บ้านบางขยัก เป็นหมู่บ้านที่อพยพมาอาศัยอยู่ที่บริเวณป่าชายเลน มีการบุกรุกทำลายป่าชายเลน และมีการนำไปเผาถ่าน จนป่าชายเลนเสื่อมโทรมและหมดไป ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ที่มีอาชีพทำประมง เมื่อออกไปทำประมงก็ไม่สัตว์น้ำ เนื่องจากปริมาณลดลง จนเกิดความเดือดร้อนรายได้ไม่เพียงพอ
กระทั่งรัฐบาลไทยได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาให้คำแนะนำ และให้ชาวบ้านได้ปฏิบัติจนทำให้ประชาชนเข้าใจ และเกิดผลดี โดยเฉพาะการเดินทางไปดูงานที่ประเทศไทย และได้รับการอบรมเพื่อมาแนะนำให้กับประชาชนในพื้นที่ จนปัจจุบันนี้ประชาชนมีรายได้ดี มีการปลูกป่าชายเลนเพิ่มขึ้น
จนส่งผลให้หมู่บ้านบางขยัก ได้รับความสนใจประชาชนในประเทศกัมพูชา และเวียดนาม โดยเดินทางมาดูงานเป็นจำนวนมาก ทำให้คณะกรรมการหมู่บ้านได้ผลิตสินค้าในหมู่บ้านขึ้น เช่น การทำน้ำยาล้างจาน การทำผ้าบาติก และการทำผลิตภัณฑ์ จากเปลือกหอย การปลูกพืชผักสวนครัว เป็นต้น นำมาเป็นสินค้าและของที่ระลึกจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทาง มาจนปัจจุบันนี้หมู่บ้านบางขยักได้เป็นหมู่บ้านที่เป็นแบบอย่างให้กับจังหวัดเกาะกง และประเทศกัมพูชาแล้ว
ด้าน นายวีรพันธ์ กล่าวว่า การเข้ามาช่วยเหลือของรัฐบาลไทยทั้งหมู่บ้านบางขยัก จ.เกาะกง และ บ้านอลองเวง บนถนนสาย 67 จ.อุดรมีชัย เนื่องจากเป็นนโยบายของการให้ความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน โดยการนำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเผยแพร่ ซึ่งสามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในประเทศกัมพูชา และผลที่ได้รับก็เกิดประโยชน์ต่อประเทศกัมพูชามาก
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นตัวแทนของผู้ว่าราชการจังหวัดมาร่วมเปิดหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งนับ เป็นความร่วมมือระหว่าง 2 จังหวัด และ 2 ประเทศ ที่สามารถนำแนวคิดค้นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาได้อย่างได้ผล และสามารถเป็นแบบอย่างกับหมู่บ้านอื่นๆ ของกัมพูชาได้
นายวิชล ให้ความเห็นว่า โครงการที่นับเป็นโครงการที่ดีที่กรมพัฒนาชุมชนได้นำหลักวิชาการมาสอนให้ กับหมู่บ้านบางขยักจนสามารถทำให้ชาวบ้านบางขยักได้เรียนรู้ จนสามารถทำให้ชาวบางขยักได้เรียนรู้จนสามารถนำไปปฏิบัติอย่างได้ผล และเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับหมู่บ้านอื่นๆ ในกัมพูชา และประเทศอื่นๆ ได้ และทางกระทรวงการต่างประเทศก็มีนโยบายให้การพัฒนาชุมชนดำเนินการต่อด้วย
วันนี้ (26 ก.ย.) ที่บ้านบางขยัก ต.เปียมกระสอบ อ.มณฑลสีมา ที่ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 48 (เกาะกง-สแรอัมเบิล) นายยุทธ ภูทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด ร่วมกับ นายสมศักดิ์ โยนกพันธ์ รองผู้ว่าราชการจ.ตราด ร่วมทำพิธีเปิด หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงแบบมีส่วนร่วม ณ บ้านบางขยัก มี นายวีรพันธ์ วัชราทิศ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา นายวิชล มนัสเอื้อศิริ รองอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน นายเรืองฤทธิ์ กรมเกลี้ยง พัฒนาการจังหวัดตราด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน จ.ตราด และชาวบ้านบ้านบางขยัก นำโดยนายติ๊ด จุติ กำนัน ต.เปียมกระสอบ นายเชง สีหนาด ผู้ใหญ่บ้านร่วม
สำหรับการเปิดหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงแบบยั่งยืน ของหมู่บ้านบางขยักครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงมาขยายผลการดำเนินงาน ในหมู่บ้านบางขยักเพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาหมู่บ้านให้กับประชาชนชาวกัมพูชา เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และใช้เป็นแหล่งศึกษาดูงานเพื่อขยายผลไปยังหมู่บ้านอื่นๆ ในจังหวัดเกาะกง และประเทศกัมพูชา
โครงการนี้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2550 โดยนำคณะกรรมการหมู่บ้านและกลุ่ม ชาวบ้านไปศึกษาดูงาน และอบรมแนวความคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ประเทศไทย จนประชาชนชาวบ้านบางขยัก ได้เกิดความเข้าใจและนำมาปฏิบัติในปีแรกจนได้ผล จากนั้นจึงได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 2 โดยเน้นให้ความรู้ความเข้าใจและการสร้างอาชีพ การจัดทำแผนชุมชน การลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ ซึ่งเป็นหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทำให้ประชาชนสามารถเรียนรู้ในทางปฏิบัติจนเกิดผลในทางปฏิบัติ ประชาชนมีรายได้มากขึ้นมีรายจ่ายลดลง จนปัจจุบันนี้ประชาชนในหมู่บ้านบางขยัก มีอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับครอบครัว โดยไม่มีหนี้สิน
นายเชง สีหนาด กล่าวว่า เมื่อก่อนหมู่บ้านบางขยัก เป็นหมู่บ้านที่อพยพมาอาศัยอยู่ที่บริเวณป่าชายเลน มีการบุกรุกทำลายป่าชายเลน และมีการนำไปเผาถ่าน จนป่าชายเลนเสื่อมโทรมและหมดไป ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ที่มีอาชีพทำประมง เมื่อออกไปทำประมงก็ไม่สัตว์น้ำ เนื่องจากปริมาณลดลง จนเกิดความเดือดร้อนรายได้ไม่เพียงพอ
กระทั่งรัฐบาลไทยได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาให้คำแนะนำ และให้ชาวบ้านได้ปฏิบัติจนทำให้ประชาชนเข้าใจ และเกิดผลดี โดยเฉพาะการเดินทางไปดูงานที่ประเทศไทย และได้รับการอบรมเพื่อมาแนะนำให้กับประชาชนในพื้นที่ จนปัจจุบันนี้ประชาชนมีรายได้ดี มีการปลูกป่าชายเลนเพิ่มขึ้น
จนส่งผลให้หมู่บ้านบางขยัก ได้รับความสนใจประชาชนในประเทศกัมพูชา และเวียดนาม โดยเดินทางมาดูงานเป็นจำนวนมาก ทำให้คณะกรรมการหมู่บ้านได้ผลิตสินค้าในหมู่บ้านขึ้น เช่น การทำน้ำยาล้างจาน การทำผ้าบาติก และการทำผลิตภัณฑ์ จากเปลือกหอย การปลูกพืชผักสวนครัว เป็นต้น นำมาเป็นสินค้าและของที่ระลึกจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทาง มาจนปัจจุบันนี้หมู่บ้านบางขยักได้เป็นหมู่บ้านที่เป็นแบบอย่างให้กับจังหวัดเกาะกง และประเทศกัมพูชาแล้ว
ด้าน นายวีรพันธ์ กล่าวว่า การเข้ามาช่วยเหลือของรัฐบาลไทยทั้งหมู่บ้านบางขยัก จ.เกาะกง และ บ้านอลองเวง บนถนนสาย 67 จ.อุดรมีชัย เนื่องจากเป็นนโยบายของการให้ความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน โดยการนำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเผยแพร่ ซึ่งสามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในประเทศกัมพูชา และผลที่ได้รับก็เกิดประโยชน์ต่อประเทศกัมพูชามาก
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นตัวแทนของผู้ว่าราชการจังหวัดมาร่วมเปิดหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งนับ เป็นความร่วมมือระหว่าง 2 จังหวัด และ 2 ประเทศ ที่สามารถนำแนวคิดค้นปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาได้อย่างได้ผล และสามารถเป็นแบบอย่างกับหมู่บ้านอื่นๆ ของกัมพูชาได้
นายวิชล ให้ความเห็นว่า โครงการที่นับเป็นโครงการที่ดีที่กรมพัฒนาชุมชนได้นำหลักวิชาการมาสอนให้ กับหมู่บ้านบางขยักจนสามารถทำให้ชาวบ้านบางขยักได้เรียนรู้ จนสามารถทำให้ชาวบางขยักได้เรียนรู้จนสามารถนำไปปฏิบัติอย่างได้ผล และเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับหมู่บ้านอื่นๆ ในกัมพูชา และประเทศอื่นๆ ได้ และทางกระทรวงการต่างประเทศก็มีนโยบายให้การพัฒนาชุมชนดำเนินการต่อด้วย
