xs
xsm
sm
md
lg

น้ำชียังท่วมถนน “บุรีรัมย์-สุรินทร์” รถเล็กผ่านไม่ได้-ใช้บริการอีแต๋นลากข้าม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แม่น้ำชี ยังเอ่อท่วม  ถนนสายบุรีรัมย์ - สุรินทร์ บริเวณ บ.โนนแดง  ต.หนองเต็ง  อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ระยะทางยาว 1 กม.  รถยนต์เล็กไม่สามารถผ่านได้ วันนี้ ( 24 ก.ย.)
บุรีรัมย์- สถานการณ์น้ำแม่น้ำชีเอ่อท่วมถนนสาย อ.กระสัง บุรีรัมย์-สุรินทร์ ระดับน้ำยังทรงตัว สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน มอเตอร์ไซค์-รถยนต์เล็กยังไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ต้องจ้างรถอีแต๋นของชาวนาที่ถูกน้ำท่วม มาบรรทุกและลากข้ามคันละ 20-30 บาท

วันนี้ (24 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบุรีรัมย์ ว่า สถานการณ์น้ำจากลำน้ำชีที่เอ่อท่วม ถนนสายบุรีรัมย์-สุรินทร์ บริเวณ บ.โนนแดง ต.หนองเต็ง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ตั้งแต่ 2 วันที่ผ่านมา ขณะนี้ระดับน้ำยังทรงตัว ประชาชนที่ใช้รถจักรยานยนต์ และรถยนต์ขนาดเล็ก หรือรถเก๋ง ยังไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แขวงการทางได้นำป้ายมาติดตั้งไว้ ให้ประชาชนที่สัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าว ซึ่งเป็นถนนสายหลัก จาก บุรีรัมย์ ไปยังจ.สุรินทร์ ได้เลี่ยงไปใช้เส้นทาง อ.พลับพลาชัย แทนเป็นการชั่วคราว จนกว่าระดับน้ำจะลดลงเข้าสู่สภาวะปกติ

แต่เนื่องจากเส้นทางเลี่ยงมีระยะทางไกลกว่า 100 กิโลเมตร ทำให้ประชาชนผู้ใช้รถบางส่วน ยอมเสียค่าจ้างรถอีแต๋นของชาวบ้าน ในการบรรทุกและลากข้าม โดยรถจักรยานยนต์ต้องเสียค่าจ้างบรรทุกข้ามคันละ 20 บาท ส่วนรถเก๋งเสียค่าลากคันละ 30 บาท อย่างไรก็ตามบางคันยอมขับฝ่ากระแสน้ำ จนทำให้รถยนต์เครื่องดับกลางถนน และต้องเสี ยค่าช่างซ่อม ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก

ด้าน นายสุวัจน์ชัย เกษรชื่น อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 196 ม. 2 บ้านโนนแดง ต.หนองเต็ง อ. กระสัง จ.บุรีรัมย์ เป็นหนึ่งบรรดาเกษตรกรผู้เคราะห์ร้ายที่สิ้นหวัง หลังจากลำน้ำชีได้เอ่อท่วมพื้นที่นาข้าวเสียหายหมดทั้ง 13 ไร่ ได้นำรถอีแต๋นที่ใช้ในการทำการเกษตร มารับจ้างชักลากรถเก๋ง และบรรทุกรถรถจักรยานยนต์ ที่ไม่สามารถขับฝ่ากระแสน้ำที่ท่วมสูงบนถนนสายบุรีรัมย์-สุรินทร์ ข้ามไปส่งยังอีกฝากฝั่ง เพราะเกรงว่าหากขับฝ่ากระแสน้ำเครื่องยนต์จะเสียหาย โดยคิดค่าบริการชักลากรถยนต์คันละ 30 บาท และบรรทุกรถจักรยานยนต์คันละ 20 บาท ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่นำรถอีแต๋นมารับจ้างชักลากรถในช่วงนี้ไม่น้อยกว่าวันละ 800-3,000 บาท

นายสุวัจน์ เกษรชื่น เล่าว่า หลังจากได้กู้ยืมเงินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาลงทุนทำนา 13 ไร่ กว่า 50,000 บาท แต่ไร่นาได้ถูกน้ำชีเอ่อท่วมเสียหายจมอยู่ใต้น้ำ ทำให้เกิดความเครียดไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้คืน จึงได้นำรถอีแต๋นที่ใช้บรรทุกพืชผลทางการเกษตร มารับจ้างชักลากรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่ถูกน้ำท่วม หารายได้เลี้ยงครอบครัวไปในช่วงนี้ เพื่อรอความช่วยเหลือจากทางภาครัฐ

ด้าน นายอาทิตย์ สุเมธารัตน์ อายุ 61 ปี เจ้าของรถเก๋งที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมถนนสายดังกล่าว ที่ได้เดินทางมาจากจ.สุรินทร์ เพื่อไปทำธุระในจ.บุรีรัมย์ กล่าว่า ไม่ทราบว่าน้ำได้ท่วมถนนสายนี้มาก่อน จึงได้ตัดสินใจขับฝ่ากระแสน้ำจนทำให้รถเครื่องยนต์ดับอยู่กลางถนน จึงได้ใช้บริการรถอีแต๋นของชาวบ้านลากข้ามมายังอีกฝั่งหนึ่ง

แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะทราบว่าน้ำท่วมถนนสายดังกล่าว ก็ยังจะต้องเดินทางผ่านถนนเส้นนี้ เพราะถ้าหากเลี่ยงและอ้อมไปเส้นทางอ.พลับพลาชัย จะมีระยะทางไกลกว่า 100 กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้เสียเวลา และต้องเสียค่าใช้น้ำมันที่สูงกว่า ค่าชักลาก

ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า ส่วนถนนสายบุรีรัมย์ -นครราชสีมา บริเวณสะพานเชื่อมต่อ อ.ลำปลายมาศ-ห้วยแถลง ที่ถูกน้ำท่วมยังถูกปิดไม่ให้รถทุกชนิดสัญจรผ่านไปเป็นวันที่ 5 เนื่องจากปริมาณน้ำยังทรงตัว ไม่มีท่าทีว่าจะลดระดับลง


กำลังโหลดความคิดเห็น