ท.ต.วังสะพุงหนุนเปิดธนาคารรีไซเคิลในโรงเรียนก่อนลุยสร้างที่ทิ้งขยะใหม่

เลย - เทศบาลตำบลวังสะพุง เล็งทุ่มงบสร้างที่ทิ้งขยะใหม่ แต่หวั่นถูกต้านเร่งเผยแพร่ให้ความรู้ ขณะเดียวกัน หนุนเด็กนักเรียนเปิดธนาคารรีไซเคิล หวังลดภาระค่ากำจัดขยะเหลือวันละ 20,000 บาท

นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล นายกเทศมนตรีตำบลวังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย เปิดเผยระหว่างการต้อนรับคณะกรรมการประเมินโครงการธนาคารขยะของโรงเรียนชุมชนวังสะพุงว่า ปัจจุบันเทศบาลตำบลวังสะพุงมีปริมาณขยะวันละ 8-10 ตัน ต้องใช้รถเก็บขยะไปทิ้งที่บ่อกำจัดของเทศบาลเมืองเลยซึ่งอยู่ห่างไกลเกือบ 50 กิโลเมตร ต้องจ่ายค่าทิ้งขยะให้เทศบาลเมืองเลยเดือนละ 40,000 บาท รวมทั้งค่าน้ำมันรถ และค่าบำรุงรักษารวมแล้วต้องใช้งบประมาณเดือนละกว่า 100,000 บาท โดยอีกไม่เกิน 2 ปี ที่ทิ้งขยะของเทศบาลเมืองเลยจะเต็ม

ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ต้องก่อสร้างบ่อกำจัดขยะแห่งใหม่ที่เป็นของเทศบาลตำบลวังสะพุงเอง ซึ่งขณะนี้ได้เลือกสถานที่ไว้แล้ว อยู่บริเวณพื้นที่ของ อบต.ผาบิ้ง อ.วังสะพุง ขั้นตอนอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและได้ทำบันทึกข้อตกลงกับ 10 อบต.ในอำเภอวังสะพุงที่คาดว่าจะมาใช้บ่อกำจัดขยะร่วมกัน

หลังจากผ่านขั้นตอนนี้จะดำเนินการทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผู้มีส่วนได้เสีย โดยมีสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 9 อุดรธานี และภาควิชาสิ่งแวดล้อมมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแบบแปลน จึงมั่นใจได้ว่าบ่อกำจัดขยะแห่งใหม่นี้จะถูกต้องตามหลักวิชาการ มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

ขั้นตอนที่ถือว่าละเอียดอ่อนที่สุด คือ การทำประชาพิจารณ์ เพราะมีประชาชนในพื้นที่ส่วนหนึ่งยังคัดค้านเกรงว่าจะเกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ดังนั้นทางเทศบาลตำบลวังสะพุงได้เตรียมงบประมาณไว้ส่วนหนึ่งสำหรับทำความเข้าใจกับประชาชน โดยนำผู้นำชุมชนไปศึกษาดูงานในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เขาทำสำเร็จมาแล้ว คาดว่าจะสามารถผ่านลุล่วงไปด้วยดี

นายกเทศมนตรีตำบลวังสะพุง กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้เข้ามาสนับสนุนโรงเรียนชุมชนวังสะพุง ในฐานะประธานกรรมการสถานศึกษา ทำโครงการธนาคารขยะ เพื่อให้ช่วยลดขยะในชุมชน โดยได้ดำเนินโครงการผ่านมาตั้งแต่ปี 2547 ปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งตนจะทำความสำเร็จของโครงการไปขยายผลให้กับชุมชน โดยให้เด็กนักเรียนเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้ผู้ใหญ่ นำขยะกลับมาใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง

หลังจากนั้นก็จะสามารถลดปริมาณถังขยะก่อนนำไปทิ้ง แยกขยะในส่วนที่เป็นเศษอาหารนำไปทำเป็นน้ำหมักชีวภาพ ทำปุ๋ยชีวภาพ โดยทางเทศบาลฯจะสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ สำหรับกระบวนการผลิต ส่วนขยะพลาสติกและกระดาษนำไปขายเข้าโรงงานขยะรีไซเคิล เชื่อว่าเปลี่ยนพฤติกรรมการทิ้งขยะของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ถือว่าเทศบาลตำบลวังสะพุงเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งแรกของจังหวัดที่ทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยตั้งเป้าหมายไว้ภายใน 2 ปี จะสามารถลดปริมาณขยะเหลือเพียงวันละ 3 ตัน และประหยัดงบประมาณเหลือเพียงเดือนละ 20,000 บาท