มุกดาหาร-ศุลกากรมุกดาหาร จับดาบตำรวจซุกยาบ้าในทหารหนักตบตาเจ้าหน้าที่ขณะข้ามสะพานฯกลับฝั่งมุกดาหารเกือบ 1,000 เม็ด
นายโชติพงษ์ ดิษเจริญ นายด่านศุลกากรมุกดาหาร ได้ร่วมกับ พ.ต.ท.สมปอง พูลศรี สว.ด่าน ตม.มุกดาหาร พร้อมด้วยชุดสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ 2 ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีขบวนการลักลอบนำยาเสพติด เดินทางมาจากประเทศลาวเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านสะพานมิตรภาพ 2 ในวันนี้
จึงประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ศุลกากร และเจ้าหน้าที่ชุดสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณ จุดตรวจสะพานมิตรภาพต่อมาตามวันเวลาเกิดเหตุพบผู้ต้องหาเดินทางเข้ามากับรถโดยสารระหว่างประเทศมีอาการพิรุธ จึงขอตรวจค้นตัว โดยให้ ด.ต.ชวลิต กิ่งแก้ว เป็นผู้ตรวจค้น
ก่อนตรวจค้น ด.ต.ชวลิต ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผู้ต้องหาดูเป็นที่พอใจแล้ว แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามผู้ต้องแสดงพิรุธและแสดงอาการตื่นตกใจอย่างผิดปกติ จึงนำตัวไปเอ็กซเรย์ที่อาคารด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ 2 ผลการเอ็กซเรย์พบวัตถุเป็นก้อนลักษณะคล้ายยาบ้าซุกซ่อนอยู่ จึงให้ผู้ต้องหาขับถ่ายออกมา ในห้องน้ำด่านศุลกากร
โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้าดูโดยตลอด และพบยาบ้าห่อหุ้มด้วยถุงยางอนามัย จำนวน 5 ก้อน รวมยาบ้า 929 เม็ด
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้เดินทางไปเยี่ยมภรรยาที่ประเทศลาว และได้พบเพื่อนพี่เขย ชื่อนาย กำ ไม่มีนามสกุล สัญชาติลาว ได้ติดต่อให้นำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้าชื่อ นายจี๊ด ที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งผู้ต้องหาไม่รู้จักมาก่อน ในราคา 20,000.- บาท โดยนาย กำ ได้มอบยาบ้าและเงินสด จำนวน 2,000.- บาท ให้ก่อน ส่วนอีก 18,000.- บาท จะรับจากนาย จี๊ด เมื่อส่งยาบ้าให้แล้ว และผู้ต้องหาได้ใช้จ่ายไปแล้ว คงเหลือเงิน จำนวน 1,400.- บาท ตามของกลาง ให้กับผู้ต้องหาในเย็นวันดังกล่าว
ต่อมาในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาและนายกำ ได้ช่วยกันยัดยาบ้าซึ่งห่อหุ้มด้วยถุงยางอนามัยเรียบร้อยแล้ว จำนวน 5 ก้อน ในช่องทวารหนักของผู้ต้องหา และโดยสารรถประจำทางระหว่างประเทศ เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เข้ามาทางสะพานมิตรภาพ 2 เพื่อนำไปส่งให้นาย จี๊ด ซึ่งผู้ต้องหาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่จะติดต่อกันโดยนายจี๊ด ทราบเบอร์โทรศัพท์ของผู้ต้องหา และจะเป็นฝ่ายโทรติดต่อเอง และถูกเจ้าหน้าที่ชุดสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน จับกุมดังกล่าว
หลังจากนั้นจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดไว้ในครอบครอง และนำเข้ายาเสพติดไว้เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ. เมืองมุกดาหาร ต่อไป
นายโชติพงษ์ ดิษเจริญ นายด่านศุลกากรมุกดาหาร ได้ร่วมกับ พ.ต.ท.สมปอง พูลศรี สว.ด่าน ตม.มุกดาหาร พร้อมด้วยชุดสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ 2 ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีขบวนการลักลอบนำยาเสพติด เดินทางมาจากประเทศลาวเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านสะพานมิตรภาพ 2 ในวันนี้
จึงประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ศุลกากร และเจ้าหน้าที่ชุดสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณ จุดตรวจสะพานมิตรภาพต่อมาตามวันเวลาเกิดเหตุพบผู้ต้องหาเดินทางเข้ามากับรถโดยสารระหว่างประเทศมีอาการพิรุธ จึงขอตรวจค้นตัว โดยให้ ด.ต.ชวลิต กิ่งแก้ว เป็นผู้ตรวจค้น
ก่อนตรวจค้น ด.ต.ชวลิต ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ผู้ต้องหาดูเป็นที่พอใจแล้ว แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามผู้ต้องแสดงพิรุธและแสดงอาการตื่นตกใจอย่างผิดปกติ จึงนำตัวไปเอ็กซเรย์ที่อาคารด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ 2 ผลการเอ็กซเรย์พบวัตถุเป็นก้อนลักษณะคล้ายยาบ้าซุกซ่อนอยู่ จึงให้ผู้ต้องหาขับถ่ายออกมา ในห้องน้ำด่านศุลกากร
โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้าดูโดยตลอด และพบยาบ้าห่อหุ้มด้วยถุงยางอนามัย จำนวน 5 ก้อน รวมยาบ้า 929 เม็ด
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้เดินทางไปเยี่ยมภรรยาที่ประเทศลาว และได้พบเพื่อนพี่เขย ชื่อนาย กำ ไม่มีนามสกุล สัญชาติลาว ได้ติดต่อให้นำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้าชื่อ นายจี๊ด ที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งผู้ต้องหาไม่รู้จักมาก่อน ในราคา 20,000.- บาท โดยนาย กำ ได้มอบยาบ้าและเงินสด จำนวน 2,000.- บาท ให้ก่อน ส่วนอีก 18,000.- บาท จะรับจากนาย จี๊ด เมื่อส่งยาบ้าให้แล้ว และผู้ต้องหาได้ใช้จ่ายไปแล้ว คงเหลือเงิน จำนวน 1,400.- บาท ตามของกลาง ให้กับผู้ต้องหาในเย็นวันดังกล่าว
ต่อมาในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาและนายกำ ได้ช่วยกันยัดยาบ้าซึ่งห่อหุ้มด้วยถุงยางอนามัยเรียบร้อยแล้ว จำนวน 5 ก้อน ในช่องทวารหนักของผู้ต้องหา และโดยสารรถประจำทางระหว่างประเทศ เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เข้ามาทางสะพานมิตรภาพ 2 เพื่อนำไปส่งให้นาย จี๊ด ซึ่งผู้ต้องหาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่จะติดต่อกันโดยนายจี๊ด ทราบเบอร์โทรศัพท์ของผู้ต้องหา และจะเป็นฝ่ายโทรติดต่อเอง และถูกเจ้าหน้าที่ชุดสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน จับกุมดังกล่าว
หลังจากนั้นจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดไว้ในครอบครอง และนำเข้ายาเสพติดไว้เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ. เมืองมุกดาหาร ต่อไป