ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ปลัด ก.มหาดไทยลงพื้นที่โคราชตรวจสภาพน้ำท่วมและมอบถุงยังชีพให้แก่ปชช.ผู้ประสบภัย เผยทั่วประเทศน้ำท่วมแล้ว 20 จังหวัด ภาคกลางน่าห่วงสุด ด้าน ปภ.เขต 5 สรุปอีสานตอนล่างประสบอุทกภัย 4 จังหวัด ปชช.เดือดร้อนกว่า 1 ล้านคนเสียหายกว่า 100 ล้าน ขณะที่นายกสมาคมรถบรรทุกอีสาน เผยภาคการขนส่งได้รับความเดือดร้อนเหตุน้ำท่วมเส้นทางสัญจรส่งสินค้า และเข้าไปรับสินค้าไม่ได้ ส่วนรักษาการ “รมว.พลัง” รุดมอบถุงยังชีพพร้อมเงินสดและน้ำมัน 1 แสนลิตร ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมโคราชเช่นกัน
วันนี้ (19 ก.ย.) ที่โรงเรียนบ้านหนองตาคง หมู่ 8 ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมประชาชนและมอบถุงยังชีพ สิ่งของอุปโภคบริโภคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจำนวนกว่า 100 ครอบครัว โดยมี นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาให้การต้อนรับ
นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากรายงานทราบว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมแล้ว 20 จังหวัด และสถานการณ์เริ่มคลี่คลายบ้างแล้วหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมอีก แต่ภูมิภาคที่น่าเป็นห่วง คือ ภาคกลางเขตปริมณฑล และกรุงเทพ
สำหรับ จ.นครราชสีมา เป็นที่ราบสูงส่วนใหญ่จะประสบปัญหาภัยแล้ง เมื่อเกิดน้ำท่วมขึ้นได้แนะนำให้ชาวบ้านเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน และหาแนวทางที่จะเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งให้ได้ ส่วนการสู้กับน้ำท่วมนั้น จะต้องปรับบ้านเรือนให้สูงขึ้น การปลูกบ้านก็ให้เป็นแบบไทยสมัยโบราณที่ใต้ถุนบ้านสูง คาดว่าปัญหาของ จ.นครราชสีมา ไม่เกิน 10 วัน ทุกอย่างน่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชน ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ เนื่องจากแต่ละจังหวัดมีงบประมาณฉุกเฉิน จำนวน 50 ล้านบาท สามารถดำเนินการช่วยเหลือในเบื้องต้นไปก่อน หากไม่เพียงพอก็ให้ร้องขอไปศูนย์กลางเพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
ด้าน นายวัลลภ เทพภักดี ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา (ปภ.เขต 5) เปิดเผยว่า ในพื้นที่ความรับผิดชอบ 6 จังหวัดอีสานตอนล่าง มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมรวม 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา, ชัยภูมิ, สระบุรี, บุรีรัมย์ บางส่วน ประชาชนเดือดร้อนกว่า 1 ล้านคน มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท และยังขยายวงกว้างท่วมพื้นที่อื่นๆ ออกไปอย่างต่อเนื่อง
พื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมทั้งหมดได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว และทางศูนย์ได้ส่งเรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำ และรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าไปช่วยเหลือแล้ว โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมา ซึ่งมีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมมากถึง 13 อำเภอ ได้ให้การช่วยเหลือมากสุดเนื่องจากเป็นพื้นที่ตั้งของศูนย์
สำหรับจังหวัดชัยภูมิ ขณะนี้น้ำได้ไหลเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิระดับสูง ได้รับความเสียหายจำนวนมากเช่นกัน ศูนย์ ปภ.เขต 5 ได้ส่งเรือท้องแบนเข้าไปช่วยแล้ว 10 ลำ ส่วนจังหวัดสุรินทร์ มีปัญหาน้ำท่วมบางพื้นที่ เช่น อ.ท่าตูม, อ.ศีขรภูมิ และ จ.ศรีสะเกษ ยังไม่มีปัญหาเรื่องน้ำท่วม
ขณะที่ นายปราโมทย์ กงทอง นายกสมาคมรถบรรทุกสินค้าภาคอีสาน เปิดเผยว่า จากภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะน้ำได้ไหลเข้าท่วมถนนสายหลักที่จะต้องใช้ขนส่งสินค้า นั้นได้ส่งผลกระทบต่อภาคการขนส่งบ้างแล้ว และต้องเสียเวลาในการขนส่งสินค้ามากขึ้นเนื่องจากต้องใช้เส้นทางเลี่ยง เพราะเส้นทางหลักไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ และบางพื้นที่รถบรรทุกไม่สามารถเข้าไปรับสินค้าจากลูกค้าได้
อย่างไรก็ตาม ความเสียหายที่เกิดขึ้นยังไม่ถือว่ามากนัก เนื่องจากช่วงนี้ยังไม่ถึงฤดูเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตรที่จะต้องมีการวิ่งรถบรรทุกอยู่เป็นประจำ แต่บางส่วนก็ต้องยอมเสียหาย ซึ่งทางผู้ประกอบการได้ทำความเข้าใจกับผู้จ้างแล้ว คาดว่า สถานการณ์เช่นนี้คงเป็นอยู่อีกไม่นานมากนักทุกอย่างก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ( 19 ก.ย.) ที่วัดหมื่นไวย ม.2 ต.หมื่นไวย อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท. (หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและคณะ ได้เดินทางมามอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมจำนวน 351 ครอบครัว พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ 5 แสนบาท และน้ำมันเชื้อเพลิง 1 แสนลิตรให้กับจังหวัดนครราชสีมา เพื่อใช้ในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยมี นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้รับมอบ
