ศูนย์ข่าวศรีราชา - อาจารย์ ม.บูรพา ยังยืนยันสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลควรลาออก หรือยุบสภา เพื่อให้เกิดความสงบภายในประเทศ
นายโอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศพระราชกำหนดภาวะฉุกเฉิน นั้น ตนมองว่า เป็นความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา กลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ ได้ชุมนุมเรียกร้องตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาเป็นเวลากว่า 100 วัน โดยไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรง แต่เมื่อมีกลุ่ม นปก.หรือ นปช.มาชุมนุมเรียกร้องให้การสนับสนุนรัฐบาลเพียงคืนเดียว ทำให้เกิดปัญหาความรุนแรงจนมีประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมากและมีผู้เสียชีวิตด้วย
ที่ผ่านมา รัฐบาลประกาศชัดเจนว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่ม นปก.หรือ นปช.ซึ่งรัฐบาลสามารถพูดได้ แต่ในความเป็นจริงประชาชนและบุคคลทั่วๆ ไปทราบดี ถึงสายสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกลุ่ม นปก.เป็นอย่างดี โดยเปรียบเทียบรัฐบาลเหมือนพระเอกหนังไทย ที่ไปมีกิ๊กกับ นปก.แล้วก็ปฏิเสธว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในความเป็นจริงประชาชนทั่วๆ ไป ทราบกันดีว่าเป็นอะไรกัน
นายโอฬาร กล่าวถึงการประกาศพระราชกำหนดภาวะฉุกเฉินในครั้งนี้ หากมองในความเป็นจริงแล้ว ใครเป็นผู้ก่อให้เกิดสภาวะเช่นนี้ ทั้งๆ ที่กลุ่มพันธมิตรฯมีการชุมนุมเรียกร้องด้วยความสงบมาเป็นเวลานานแล้ว แต่เมื่อกลุ่ม นปก.เข้ามาชุมนุมเรียกร้องต่อต้านบ้าง ปัญหาดังกล่าวจึงเกิดขึ้น จนต้องมีการประกาศภาวะดังกล่าว
จากการกระทำต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งล่าสุด ได้ประกาศพระราชกำหนดภาวะฉุกเฉิน ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯยิ่งมองแล้วไม่ชอบธรรม และไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ และองค์กรต่างๆ แสดงอารยะขัดขืน และเข้ามาร่วมชุมนุมต่อต้านเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน และจะยิ่งบานปลายเพิ่มมากขึ้นด้วย
“ตอนนี้ทางออก ตนคิดว่า ความสง่างามของนายกรัฐมนตรี หรือเกียรติยศ สูงสุดของนายกรัฐมนตรี คือ การเสียสละ โดยการลาออก หรือยุบสภา ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว” นายโอฬาร กล่าว
นายโอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศพระราชกำหนดภาวะฉุกเฉิน นั้น ตนมองว่า เป็นความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา กลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ ได้ชุมนุมเรียกร้องตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาเป็นเวลากว่า 100 วัน โดยไม่มีเหตุการณ์อะไรรุนแรง แต่เมื่อมีกลุ่ม นปก.หรือ นปช.มาชุมนุมเรียกร้องให้การสนับสนุนรัฐบาลเพียงคืนเดียว ทำให้เกิดปัญหาความรุนแรงจนมีประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวนมากและมีผู้เสียชีวิตด้วย
ที่ผ่านมา รัฐบาลประกาศชัดเจนว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่ม นปก.หรือ นปช.ซึ่งรัฐบาลสามารถพูดได้ แต่ในความเป็นจริงประชาชนและบุคคลทั่วๆ ไปทราบดี ถึงสายสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกลุ่ม นปก.เป็นอย่างดี โดยเปรียบเทียบรัฐบาลเหมือนพระเอกหนังไทย ที่ไปมีกิ๊กกับ นปก.แล้วก็ปฏิเสธว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในความเป็นจริงประชาชนทั่วๆ ไป ทราบกันดีว่าเป็นอะไรกัน
นายโอฬาร กล่าวถึงการประกาศพระราชกำหนดภาวะฉุกเฉินในครั้งนี้ หากมองในความเป็นจริงแล้ว ใครเป็นผู้ก่อให้เกิดสภาวะเช่นนี้ ทั้งๆ ที่กลุ่มพันธมิตรฯมีการชุมนุมเรียกร้องด้วยความสงบมาเป็นเวลานานแล้ว แต่เมื่อกลุ่ม นปก.เข้ามาชุมนุมเรียกร้องต่อต้านบ้าง ปัญหาดังกล่าวจึงเกิดขึ้น จนต้องมีการประกาศภาวะดังกล่าว
จากการกระทำต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งล่าสุด ได้ประกาศพระราชกำหนดภาวะฉุกเฉิน ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯยิ่งมองแล้วไม่ชอบธรรม และไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ และองค์กรต่างๆ แสดงอารยะขัดขืน และเข้ามาร่วมชุมนุมต่อต้านเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน และจะยิ่งบานปลายเพิ่มมากขึ้นด้วย
“ตอนนี้ทางออก ตนคิดว่า ความสง่างามของนายกรัฐมนตรี หรือเกียรติยศ สูงสุดของนายกรัฐมนตรี คือ การเสียสละ โดยการลาออก หรือยุบสภา ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว” นายโอฬาร กล่าว