“มวลชนตะวันออก”พร้อมสู้ตายหาก 5 แกนนำพันธมิตรฯ ถูกจับ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - มวลชนภาคตะวันออกพร้อมยืนเคียงข้างแกนนำพันธมิตรฯ ชี้หากถูกจับต้องเป็นไปตามขั้นตอน หากสุ่มสี่สุ่มห้าถึงเวลาที่มวลชนต้องลุกฮือ เผยขณะนี้สถานการณ์ความรุนแรงสุกงอม อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด แต่ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่

นายสุทธิ อัชฌาศัย แกนนำพันธมิตรฯ จังหวัดระยอง กล่าวถึงกรณีการออกหมายจับแกนนำพันธมิตรฯ ว่า ซึ่งเรื่องนี้จะต้องรอดูว่าศาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะการไปขอหมายศาลจับกุมนั้น มองว่าเป็นการใช้กฎหมายมาเป็นเครื่องมือในการเล่นงานพันธมิตรฯ และการขอหมายศาลจับกุม 5 แกนนำพันธมิตรฯนั้น ได้กระทำความผิดจริงตามที่ตำรวจอ้างหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาล

ทั้งนี้ หากมีการออกหมายศาลจับกุม 5 แกนนำพันธมิตรฯ จริงก็ต้องมีการต่อสู้คดีตามกรอบของกฎหมาย โดยบริสุทธิ์ยุติธรรม และไม่หลบหนีแต่อย่างใด และทางพันธมิตรฯ จากพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศก็จะร่วมในการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย

นายมนัด อ่ำเอี่ยมศรี ตัวแทนกลุ่มแรงงานเมืองระยอง เผยขณะที่กำลังร่วมชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาล “สัตว์นรก” ที่ทำเทียบรัฐบาลในปฏิบัติการไทยคู่ฟ้าว่า ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ความรุนแรงที่สุกงอม ทั้งนี้หากมีการจับกุมตัว 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างไม่เป็นธรรม พลังมวลชนที่ร่วมชุมนุมคงจะไม่ยอมเป็นแน่

ทั้งนี้ มองดูแล้วว่าเป็นสงครามจิตวิทยาเพื่อกดดันผู้ร่วมชุมนุมเท่านั้น และตอนนี้เป็นการชิงไหวชิงพริบ และเป็นการประลองเชิงระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าใครจะมีความเหนือชั้นมากกว่า อย่างไรก็ตาม ต้องดูเสียงส่วนใหญ่ของมวลชนที่ร่วมชุมนุมว่าแนวทางจะเป็นอย่างไร และหากได้ข้อสรุปก็ต้องเคารพในมติและปฏิบัติตามด้วยความเต็มใจ

“ตอนนี้รัฐบาลกำลังใช้สถานีโทรทัศน์ NBT เป็นเครื่องมือในการโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯและผู้ร่วมชุมนุมอย่างเผ็ดร้อน เมื่อคืนที่ผ่านมาที่ทำเนียบก็มีเหตุการณ์นิดหน่อย คือ มีตำรวจเข้ามา พันธมิตรฯ ส่วนนอกก็มาปิดล้อมตำรวจอีกชั้น มาถึงตอนนี้แล้วผู้เข้าร่วมชุมนุมไม่ยอมอย่างแน่นอน อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ยังไงเสียการชุมนุมครั้งนี้เราต้องชนะแน่ๆ แต่ขึ้นอยู่กับว่าชัยชนะจะเป็นแบบไหน จะมีความรุนแรงหรือไม่เราต้องดูกันอีกที แต่ก็พร้อมทุกสถานการณ์” นายมนัด กล่าว

ด้านนายสิทธิ สมพจน์ ในนามกลุ่มฮิปปี้บางแสนรักชาติ ให้ทรรศนะด้วยว่า หากมีการจับกุมตัว 5 แกนนำพันธมิตรฯ จริง รัฐบาลคงคิดผิดอย่างมหันต์ และไม่มีความเห็นด้วยอย่างรุนแรง ตรงนี้อาจเป็นชวนไปสู่ความรุนแรงขึ้นได้ เพราะประชาชนที่รัก 5 แกนนำและรักความถูกต้องจนไปร่วมชุมนุมอย่างเป็นจำนวนมาก คงไม่ยินยอมในการกระทำดังกล่าวเป็นแน่

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวแล้วยังอยากให้ 5 แกนนำทำหน้าที่ดังกล่าวอยู่ต่อไป เพราะถ้าประชาชนไม่ต้องการ แกนนำทั้ง 5 คงรู้ตัวดีและคงถอนตัวไปนานแล้ว แต่สาเหตุที่ 5 แกนนำยังทำหน้าที่อยู่เพราะเป็นความต้องการของประชาชนที่อยากได้ประเทศไทยกลับคืนมา และไม่ยินยอมให้พวกทรราชมากดขี่ข่มเหงบ้านเมืองอีกต่อไป จึงขอสนับสนุน 5 แกนนำในการทำหน้าที่ดังกล่าวต่อไป และถ้าจะเกิดความรุนแรงขึ้นคงต้องมีการต่อสู้กัน โดยจะไม่ยินยอมให้รัฐบาลมาทำร้ายประชาชนเฉกเช่นที่ผ่านมาอีกแล้ว

ขณะที่ นายณัฐวุฒิ เชษฐวงค์รัตน์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกบินทร์บุรี-ปราจีนบุรี กล่าวด้วยว่า เป็นเรื่องดีที่ 5 แกนนำออกมาบอกว่าจะไม่ยอมมอบตัว โดยหากตำรวจอยากเข้ามาจับกุมก็ให้บุกเขามาจับในที่ชุมนุม ซึ่งถึงเวลานั้นประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์คงไม่มีใครยอมเป็นแน่

ทั้งนี้ ยังไงก็ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ว่าจะเอาอย่างไร ถ้ามติของผู้ร่วมชุมนุมมีข้อสรุปเป็นไปในทิศทางใดก็คงต้องเป็นไปตามนั้น แต่เชื่อแน่ว่าทุกเหตุการณ์ความวุ่นวายทั้งหมดคงจะจบลงภายในอาทิตย์นี้แน่นอน เพราะตอนนี้พลังมวลชนต่างลุกฮือกันอย่างกว้างขวางแล้ว ในส่วนของพันธมิตรฯกบินทร์บุรี และปราจีนบุรี ในขณะนี้ได้กระจายกำลังกันไปตามจุดต่างๆ ทั้งที่ทำเนียบรัฐบาล หน้าสถานีโทรทัศน์ NBT และบริเวณโดยรอบสะพานมัฆวานฯ โดยทั้งหมดยืนยันว่าจะยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างร่วมกับ 5 แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จนถึงที่สุด

ด้านนางสิริรัตน์ โพธิ์ทอง พันธมิตรฯ พนัสนิคม เผยว่า ในกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมขอศาลให้ออกหมายจับ 5 แกนนำพันธมิตรฯ นั้น ตนมีความเห็นว่าเป็นการกดดันของรัฐบาล ที่พยายามจะสลายการชุมนุมของประชาชนในครั้งนี้ จึงหาวิธีการต่างๆ ที่เห็นว่าจะทำได้ มาสลายการชุมนุมโดยสร้างภาพว่ารัฐบาลนั้นเป็นฝ่ายถูก ในกรณีนี้ถ้าประชาชนจำนวนมากขนาดนี้มาชุมนุมขับไล่รัฐบาลแล้ว ถ้าเป็นประเทศอื่นๆ ตอนนี้เค้าลาออกไปหมดแล้ว ไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไรในเมื่อประชาชนต่างไม่เอารัฐบาลชุดนี้แล้ว ไม่รู้ยังหน้าหนาหน้าทนอยู่อีกทำไม

ถ้าจับ 5 แกนนำพันธมิตรฯ จริง รับรองว่าจะต้องเกิดปัญหาใหญ่แน่นอน เพราะประชาชนทั่วทั้งประเทศจะออกมาร่วมกันขับไล่รัฐบาลมากกว่าเดิม ซึ่งถือว่าเป็นการยั่วยุประชาชนให้เกิดความโกรธแค้นมากขึ้น สำหรับชาวพนัสนิคม เมื่อทราบข่าวก็ได้ติดต่อกันและเตรียมรวมตัวกันในขณะนี้เพื่อเดินทางเข้าไปร่วมการชุมนุมในครั้งนี้ทันที และตอนนี้ได้รับการประสานงานจากผู้ที่อยากเข้าร่วม ว่าจะขอร่วมเดินทางเข้าไปร่วมการชุมนุมเพื่อเป็นกำลังใจให้ 5 แกนนำแล้วมากกว่าการเป่านกหวีดครั้งที่ผ่านมาอีก แน่นอน

นางสาวภูษณิศา ใจธรรม พันธมิตรฯศรีราชา เผยว่า “ถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นจริง ตนคิดว่าประชาชนต้องทำอะไรสักอย่างแน่นอน จะต้องมีประชาชนเข้าไปร่วมการชุมนุมมากขึ้นแน่นอน รัฐบาลอย่าไปคิดว่าเมื่อสามารถจับ 5 แกนนำพันธมิตรฯได้ เรื่องทุกอย่างมันจะจบลงด้วยดี ไม่มีทาง ยังไงพันธมิตรฯ ก็เตรียมแกนนำอีกชุดไว้พร้อมแล้ว แต่อย่าคิดว่าจะใช้อำนาจทางการเมืองมาจับใครตอนไหนก็ได้ ไม่มีทาง กล้าหรือเปล่าที่จะเข้ามาจับในที่พันธมิตรฯร่วมชุมนุมกันอยู่

ทั้งนี้ เพราะเห็นว่า 5 แกนนำประกาศว่าให้มาจับได้ แต่ต้องกล้ามาจับในที่ชุมนุม เพราะว่าพวกเขารออยู่ในที่ชุมนุม แต่ก็น่าจะรู้ดีว่าถ้ามาจับแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ลองดูพลังของประชาชนที่ชุมนุมอยู่จะยอมให้เดินเข้ามาจับได้ง่ายๆ ยิ่งถ้าขาด 5 แกนนำพันธมิตรฯ ด้วยแล้ว รับรองว่าความรุนแรงจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน เพราะไม่มีคนคอยห้ามปราม คอยเตือน ขาดคนที่เป็นผู้นำ ทำให้ประชาชนอาจกระทำการใดๆ โดยไม่ได้คิดก็เป็นได้ ตอนนี้ทางกลุ่มพันธมิตรฯที่เดินทางไปจากศรีราชา ก็ประกาศมาแล้วว่า ถ้าไม่ได้รับชัยชนะจะไม่ยอมเดินทางกลับมาบ้านอย่างแน่นอน พร้อมกับโทรมาบอกทางบ้านไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว

ด้านนางรัตนา อ่องสมบัติ แกนนำพันธมิตรฯพัทยา-นาเกลือ กล่าวถึงการเรียกร้องนั้น ทางกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมจะให้การสนับสนุน 5 แกนนำพันธมิตรฯ อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีสถานการณ์ใดเกิดขึ้นทางพันธมิตรฯ ก็ต้องให้การสนับสนุนต่อไปโดยไม่หยุดยั้ง ซึ่งการเป่านกหวีดที่ผ่านมาทางกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ได้เดินทางไปร่วมชุมนุม และในวันนี้ก็ต้องเดินทางเข้าไปสมทบอีก

การเดินทางเข้าไปในวันนี้ ทางกลุ่มพันธมิตรฯ เตรียมสัมภาระเข้าไปช่วยด้วย เช่น อาหารกล่อง, เครื่องมืดชูกำลัง, สิ่งของจำเป็นต่างๆ และที่สำคัญจะต้องเตรียมอุปกรณ์ไปนอนค้างที่ร่วมชุมนุม เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีปัญหาในการสลายการชุมนุม เพราะเห็นกลุ่มพันธมิตรฯมีน้อย ดังนั้น จึงต้องรวมตัวไปค้างบริเวณสถานที่ชุมนุม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา

นางรัตนา กล่าวต่อไปว่า กรณีที่มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายจับ 5 แกนนำพันธมิตรฯนั้น ทางกลุ่มพันธมิตรฯทุกพื้นที่จะไม่ให้มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น และหากจะจับ 5 แกนนำพันธมิตรฯจริง ทางกลุ่มพันธมิตรฯก็พร้อมจะให้จับกุมในครั้งนี้ด้วย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกๆคนที่มาร่วมชุมนุมไม่มีใครสั่งการโดยมาร่วมชุมนุมกันเอง

“การร่วมชุมนุมก่อต้านรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดขึ้น เพราะการต่อสู้ในครั้งนี้ทำเพื่อประเทศชาติ ถึงแม้จะเสียชีวิตก็ต้องต่อสู้ต่อไปโดยไม่หยุดยั้งอย่างแน่นอน” นางรัตนา กล่าว