ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ประชาชนชาวขอนแก่นหลากหลายความคิดเห็น เห็นด้วยกับพันธมิตรฯ ใช้แผนดาวกระจายและใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นกองบัญชาการ พร้อมแนะรัฐบาลลาออกเพื่อเปลี่ยนประเทศไทยให้ดีขึ้น ขณะที่อีกส่วนหนึ่งตกใจหลังเห็นข่าวจากสื่อมวลชน ไม่เห็นด้วยที่พันธมิตรฯ ใช้ความรุนแรงและสร้างความวุ่นวาย ต้องการเรียกร้องให้กลับไปใช้วิธีเจรจาเพื่อสร้างความสงบในประเทศ
เช้าวันนี้ (27 ส.ค.) บรรยากาศแผงขายหนังสือพิมพ์ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ประชาชนเข้าไปเลือกซื้อหนังสือพิมพ์ตามแผงอย่างคึกคัก
นายณัฐพงษ์ รัชตะเวทิน นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 5 โรงเรียนชื่อดังในจังหวัดขอนแก่น บอกว่าเคยชมเอเอสทีวีบ้าง รู้ว่ามีการชุมนุม แต่ไม่ได้ติดตามต่อเนื่อง จนกระทั่งมีการประกาศเป่านกหวีดของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อขับไล่รัฐบาล ได้ให้ความสนใจติดตามข่าวการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ และการแก้ปัญหาของรัฐบาล
ทั้งนี้ เช้าวันนี้ได้ซื้อหนังสือพิมพ์ตั้งแต่เช้าถึง 2 ฉบับ เพื่ออ่านรายละเอียดข่าวเพิ่มเติมจากที่ได้ชมจากฟรีทีวีแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้
นายณัฐพงษ์ บอกอีกว่า รู้สึกตกใจที่เห็นภาพจากฟรีทีวีที่พันธมิตรใช้ความรุนแรงกรณีบุกไปที่สถานีโทรทัศน์ NBT ทำให้รู้สึกหดหู่ที่เห็นภาพสังคมไทยกลายเป็นสังคมที่ต้องใช้ความรุนแรง ทั้งที่น่าจะหาวิธีเจรจาเหมือนในอดีต
ดังนั้น จึงเห็นว่าทั้งรัฐบาลและกลุ่มพันธมิตรควรใช้แนวทางเจรจาเป็นทางออกในการแก้ปัญหาเพื่อให้ประเทศกลับมาสงบสุข
ด้านแม่ค้าจำหน่ายเสื้อผ้าในตลาดสดเทศบาล 1 ของเทศบาลนครขอนแก่น เปิดเผยว่า ในตลาดสดนี้ มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จนเกิดการแบ่งแยกเป็นสองฝ่ายชัดเจน ทำให้ตนรู้สึกไม่เห็นด้วยและไม่สบายใจ พร้อมขอแนะนำสื่อมวลชน ให้เปิดข้อมูลทั้งฝั่งรัฐบาล และการชุมนุมของพันธมิตรฯ อย่างเป็นจริงและเท่าเทียมกันทั้งสองฝั่ง เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลทั้งสองฝ่ายและนำมาศึกษาวิเคราะห์เองว่าฝ่ายพันธมิตรมีการชุมนุมเพื่ออะไรและมีคนมากน้อยแค่ไหน เป็นคนมาจากที่ใดบ้าง ตลอดจนเกิดอะไรขึ้นในฝั่งรัฐบาลที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากมารวมกันเพื่อชุมนุมต่อต้านขับไล่
“หากสื่อมวลชนเสนอข่าวทั้งสองด้านด้วยความจริงและเท่าเทียม ประชาชนที่ไม่เคยได้รู้ข้อมูลจะเกิดความเข้าใจมากขึ้น และไม่เกิดการแบ่งแยกอีกต่อไป” นางอำไพ พรายแก้ว อาชีพค้าขาย ในตลาดสดเทศบาล 1 เทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง เช่นเดียวกับเจ้าของกิจการร้านค้าในจังหวัดขอนแก่น ที่ได้ติดตามASTV เป็นประจำ กล่าวเห็นด้วยกับยุทธศาสตร์ของพันธมิตรในการดาวกระจายไปยังจุดสำคัญ รวมทั้งการไปเยี่ยมสถานีโทรทัศน์ NBT ในฐานะเจ้าของ เพราะต่างเป็นผู้เสียภาษี เพื่อนำไปเป็นเงินเดือนข้าราชการทุกสังกัดอยู่แล้ว
โดยเฉพาะช่อง NBT ที่ไม่มีความเป็นสื่อมวลชน เป็นได้แค่คนงานที่เสนอแต่ข่าวของรัฐบาลไม่เคยมีความเป็นธรรมกับประชาชนทั้งประเทศที่ต้องการดูความจริงทุกด้าน เพราะฉะนั้นหากคนที่จ่ายเงินเดือนให้จะไปเยี่ยมเยียนก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพันธมิตรมีจุดยืนชัดเจนในการชุมนุมอย่างสงบ สันติ อหิงสา และกอบกู้ชาติบ้านเมืองให้พ้นจากภัยคนขายชาติ ขายแผ่นดิน
“ทางออกที่ดีที่สุด คือ รัฐบาลต้องลาออกทั้งคณะ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย นำไปสู่การเมืองใหม่ให้ประเทศไทยดีขึ้น” นางกาญจนา เสงี่ยมพุทธคุณ เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น กล่าว
สำหรับความเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น มีรายงานว่าจะมีการเคลื่อนกำลังกองทัพประชาชนไปเสริมที่ทำเนียบรัฐบาลอีกในค่ำวันนี้
เช้าวันนี้ (27 ส.ค.) บรรยากาศแผงขายหนังสือพิมพ์ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ประชาชนเข้าไปเลือกซื้อหนังสือพิมพ์ตามแผงอย่างคึกคัก
นายณัฐพงษ์ รัชตะเวทิน นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 5 โรงเรียนชื่อดังในจังหวัดขอนแก่น บอกว่าเคยชมเอเอสทีวีบ้าง รู้ว่ามีการชุมนุม แต่ไม่ได้ติดตามต่อเนื่อง จนกระทั่งมีการประกาศเป่านกหวีดของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อขับไล่รัฐบาล ได้ให้ความสนใจติดตามข่าวการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ และการแก้ปัญหาของรัฐบาล
ทั้งนี้ เช้าวันนี้ได้ซื้อหนังสือพิมพ์ตั้งแต่เช้าถึง 2 ฉบับ เพื่ออ่านรายละเอียดข่าวเพิ่มเติมจากที่ได้ชมจากฟรีทีวีแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้
นายณัฐพงษ์ บอกอีกว่า รู้สึกตกใจที่เห็นภาพจากฟรีทีวีที่พันธมิตรใช้ความรุนแรงกรณีบุกไปที่สถานีโทรทัศน์ NBT ทำให้รู้สึกหดหู่ที่เห็นภาพสังคมไทยกลายเป็นสังคมที่ต้องใช้ความรุนแรง ทั้งที่น่าจะหาวิธีเจรจาเหมือนในอดีต
ดังนั้น จึงเห็นว่าทั้งรัฐบาลและกลุ่มพันธมิตรควรใช้แนวทางเจรจาเป็นทางออกในการแก้ปัญหาเพื่อให้ประเทศกลับมาสงบสุข
ด้านแม่ค้าจำหน่ายเสื้อผ้าในตลาดสดเทศบาล 1 ของเทศบาลนครขอนแก่น เปิดเผยว่า ในตลาดสดนี้ มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จนเกิดการแบ่งแยกเป็นสองฝ่ายชัดเจน ทำให้ตนรู้สึกไม่เห็นด้วยและไม่สบายใจ พร้อมขอแนะนำสื่อมวลชน ให้เปิดข้อมูลทั้งฝั่งรัฐบาล และการชุมนุมของพันธมิตรฯ อย่างเป็นจริงและเท่าเทียมกันทั้งสองฝั่ง เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลทั้งสองฝ่ายและนำมาศึกษาวิเคราะห์เองว่าฝ่ายพันธมิตรมีการชุมนุมเพื่ออะไรและมีคนมากน้อยแค่ไหน เป็นคนมาจากที่ใดบ้าง ตลอดจนเกิดอะไรขึ้นในฝั่งรัฐบาลที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากมารวมกันเพื่อชุมนุมต่อต้านขับไล่
“หากสื่อมวลชนเสนอข่าวทั้งสองด้านด้วยความจริงและเท่าเทียม ประชาชนที่ไม่เคยได้รู้ข้อมูลจะเกิดความเข้าใจมากขึ้น และไม่เกิดการแบ่งแยกอีกต่อไป” นางอำไพ พรายแก้ว อาชีพค้าขาย ในตลาดสดเทศบาล 1 เทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง เช่นเดียวกับเจ้าของกิจการร้านค้าในจังหวัดขอนแก่น ที่ได้ติดตามASTV เป็นประจำ กล่าวเห็นด้วยกับยุทธศาสตร์ของพันธมิตรในการดาวกระจายไปยังจุดสำคัญ รวมทั้งการไปเยี่ยมสถานีโทรทัศน์ NBT ในฐานะเจ้าของ เพราะต่างเป็นผู้เสียภาษี เพื่อนำไปเป็นเงินเดือนข้าราชการทุกสังกัดอยู่แล้ว
โดยเฉพาะช่อง NBT ที่ไม่มีความเป็นสื่อมวลชน เป็นได้แค่คนงานที่เสนอแต่ข่าวของรัฐบาลไม่เคยมีความเป็นธรรมกับประชาชนทั้งประเทศที่ต้องการดูความจริงทุกด้าน เพราะฉะนั้นหากคนที่จ่ายเงินเดือนให้จะไปเยี่ยมเยียนก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพันธมิตรมีจุดยืนชัดเจนในการชุมนุมอย่างสงบ สันติ อหิงสา และกอบกู้ชาติบ้านเมืองให้พ้นจากภัยคนขายชาติ ขายแผ่นดิน
“ทางออกที่ดีที่สุด คือ รัฐบาลต้องลาออกทั้งคณะ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย นำไปสู่การเมืองใหม่ให้ประเทศไทยดีขึ้น” นางกาญจนา เสงี่ยมพุทธคุณ เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น กล่าว
สำหรับความเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น มีรายงานว่าจะมีการเคลื่อนกำลังกองทัพประชาชนไปเสริมที่ทำเนียบรัฐบาลอีกในค่ำวันนี้