เชียงราย – รมว.มหาดไทย ตรวจสถานการณ์น้ำโขงทะลักท่วมบ้านเรือนราษฎร แถบอำเภอชายแดนเชียงรายพร้อมมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ ล่าสุด สถานการณ์คลี่คลายลงบ้างหลังจากฝนหยุดตกลง เบื้องต้นให้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อหาทางช่วยเหลือ ในขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ระบุปีนี้นาข้าวและข้าวโพดเสียหายหนัก จากน้ำขังชาวบ้านยังเฝ้าระวังระดับน้ำโขง เพราะหวั่นจีนปล่อยน้ำจากเขื่อนอีกจนอาจทำให้น้ำท่วมระลอก 2
วันนี้ (14 ส.ค.) พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) พร้อมด้วย นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ มาตรวจสถานการณ์น้ำโขงทะลักท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่การเกษตรที่ ต.บ้านแซว ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
ทั้งนี้ พบว่าสถานการณ์คลี่คลายหลังจากฝนหยุดตกลง ทำให้ถนนสายบ้านสันทรายกองงาม-บ้านสบกก สายบ้านสบกก-เกาะผาคำ ที่มีน้ำท่วมขังสูงกว่า 1.50 เมตร พบว่า ขณะนี้ถนนทั้งสองช่วงดังกล่าว ระดับน้ำลดหายไป จนรถทุกชนิดสามารถวิ่งผ่านไปได้ แต่สภาพผิวถนนเสียหายกลายเป็นหลุมบ่อจำนวนมาก ยังคงมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนราษฎรบางส่วนแต่มีระดับไม่อย่างเช่นช่วง 2 วันที่ผ่านมา
พล.ต.อ.โกวิท พร้อมคณะปลัดกระทรวงมหาดไทย และ นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย,นายวรชัย อุตตมชัย รองผู้ว่าราชการ,นายสมหวัง รุ่งตระกูลชัย นายอำเภอเชียงแสน,ตำรวจ มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ ให้กับราษฎรที่บ้านปงของ ม.5 ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จำนวน 300 ชุด กลุ่มราษฎรทราบข่าวจึงมารอรับด้วยดีใจ และมีชาวบ้านส่วนหนึ่งอยากให้ทางกระทรวงมหาดไทย หาหนทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมระยะยาวให้ด้วย
รมว.มหาดไทย สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ละแห่งที่ประสบภัยให้นายอำเภอสำรวจความเสียหายในแต่ละพื้นที่เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือในอนาคต โดยเบื้องต้นแต่ละอำเภอมีคณะกรรมการในการพิจารณาช่วยเหลือวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท แต่หากเสียหายเกิน 1 ล้าน ให้เสนอไปยังคณะกรรมการระดับจังหวัด ซึ่งมีงบ 50 ล้านบาท แต่หากเกินกว่านี้ให้เสนอไปยังกระทรวงมหาดไทย และสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีงบระดับ 100 ล้านบาท แต่ขณะนี้เนื่องจากน้ำยังไม่ลด จึงยังต้องรอน้ำลดก่อนจึงจะทราบความเสียหาย
ส่วนการประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินอุทกภัยได้ประกาศเป็นรายหมู่บ้าน โดยประกาศไปแล้วแทบทุกอำเภอในจังหวัด รวมกว่า10 อำเภอ ที่ประสบอุทกภัยในระยะนี้ เช่นที่ อ.แม่สาย, อ.เชียงแสน, อ.เชียงของ, เวียงแก่น, อ.ดอยหลวง ฯลฯ
จากนั้นคณะ มท.1 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมขังที่ อ.เชียงของ และ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ซึ่งพบว่าระดับหลายจุดเริ่มลดระดับแล้ว แต่ในบางพื้นที่ยังทรงตัว เนื่องจากแม่น้ำสายในระบายออกไปสู่แม่น้ำโขงไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า น้ำโขงที่ทะลักท่วมอาคารชั่วคราวที่ทำการของด่านตำรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงของ และด่านศุลกากรเชียงของ ที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือบั๊ค หรือจุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาว ม.1 ต.เวียง อ.เชียงของ จนมิดหลังด้วยระดับสูงกว่า 2 เมตรนั้น ขณะนี้ระดับน้ำลดลงประมาณ 50 เซนติเมตร แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปใช้การได้ ทางเจ้าหน้าที่ 2 หน่วยงานได้ไปใช้อาคารชั่วคราวที่ตั้งอยู่ข้างเคียงแทน
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า มีกระแสข่าวจากกลุ่มพ่อค้าเรือบรรทุกสินค้าจีนที่วิ่งขนถ่ายสินค้าเข้ามาในเขตแดนไทยด้าน อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ ระบุว่า ทางการจีน จะมีการปล่อยน้ำออกจากเขื่อนอีกระลอกในช่วง 2-3 วันนี้ ซึ่งจะมีผลทำให้ระดับน้ำโขง มีระดับสูงขึ้น จนอาจเกินจุดวิกฤติ และอาจจะทะลักเข้าท่วม ในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงทั้ง 2 อำเภอดังกล่าวได้อีก จึงมีการเฝ้าระวังตรวจระดับน้ำโขงอย่างใกล้ชิด
นายทองคำ จับใจนาย อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านสันทรายกองงาม ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ปีนี้น้ำโขงขึ้นสูงมาก เข้าท่วมนาข้าว และไร่ข้าวโพดของชาวบ้านเสียหายหลายพันไร่ โดยขณะนี้น้ำยังขังอยู่ในนาข้าวและไร่ข้าวโพด เพราะน้ำโขงลดก็จริง แต่น้ำที่ขังไม่ยอมลดลงง่ายๆ อาจทำให้ข้าวโพดเน่า หากนานไปข้าวก็จะตาย ซึ่งถือว่าน้ำโขงท่วมสูงไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบกว่า 42 ปี
สาเหตุที่น้ำท่วม ส่วนหนึ่งชาวบ้านเชื่อว่า มาจากจีนเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนที่กั้นน้ำโขงเพราะฝนตกหนัก ซึ่งตนมีไร่ข้าวโพดและนาข้าวกว่า 200 ไร่ เสียหายไปด้วย ตอนนี้ก็สำรวจข้อมูลเก็บไว้ทั้งหมด คาดว่าทางราชการน่าจะมีการช่วยเหลือด้านพันธุ์พืชมาให้บ้าง
ล่าสุด เมื่อ 15.00 น. พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) พร้อมคณะ เดินทางจาก จ.เชียงราย ไปตรวจสถานการณ์ในพื้นที่พื้นที่ จ.น่าน ต่อ