จันทบุรี - กรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย จัดประชุมสัมมนาการแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการเสริมสร้างความสัมพันธ์ไทย และกัมพูชา เพื่อประสานความมั่นคง และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่โรงแรมนิวแทรเวิลลอร์ด อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ได้จัดให้มีพิธีเปิดสัมมนาเรื่องการแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการเสริมสร้างความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โดยมีพลเรือตรี สุรชัย สังฆพงษ์ รองผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย พลตรี วรวิทย์ ดรุณชู รองเจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พลเรือตรี ประเสริฐ ชื่นจิตต์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดจันทบุรี และนายกรียงเดช เข็มทอง ปลัดจังหวัดจันทบุรี ร่วมในพิธีเปิดด้วย
โดยมีผู้เข้าร่วมในการสัมมนาครั้งนี้ ก็จะประกอบไปด้วย หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด จันทบุรี ตำรวจ ทหาร โดยมีสาระสำคัญในเรื่องความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา/เรื่อง เขตแดนไทย-กัมพูชาด้านจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข และเรื่องการแบ่งพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา
พลเรือตรี สุรชัย สังฆพงษ์ รองผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี และตราด กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการสัมมนาที่มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และประสบการณ์ รวมทั้งนำปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนมาตีแผ่ให้ได้รับรู้อย่างแพร่หลาย ซึ่งจะนำไปสู่การพิจารณาหาข้อสรุป มาตรการ และแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับความเป็นจริง และเป็นไปตามนโยบายของหน่วยเหนือ
โดยมีการแก้ไขที่เป็นรูปธรรมชัดเจน มุ่งให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจความสัมพันธ์ และความเข้าใจที่ดีระหว่างไทย และกัมพูชา มากยิ่งขึ้น ปัจจุบันปัญหาตามแนวชายแดนมีความหลากหลาย และมีความสลับซับซ้อน ยากแก่การแก้ไขหากไม่ได้รับการเอาใจใส่อย่างจริงจังจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะปัญหาแรงงาน ผิดกฎหมาย ปัญหายาเสพติด การโจรกรรมยานพาหนะ อาชญากรรมข้ามชาติในรูปแบบต่างๆ
จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยศักยภาพของผู้ที่รู้ และปฏิบัติจริงจากทุกหน่วยงาน และทุกองค์กรที่ได้คลุกคลีอยู่กับพื้นที่ชายแดนจังหวัดจันทบุรี-ตราด มาร่วมกันบูรณาการ และทุ่มเทความรู้ ความสามารถ กำลังกาย และกำลังใจที่มีอยู่ ช่วยกันเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ รับผิดชอบของเราอย่างเต็มกำลังความสามารถ
นอกจากจะก่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อประชาชน และสังคมโดยรวมในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศแล้ว ยังจะเกื้อกูลให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน มีความแน่นแฟ้น และมีความไว้เนื้อเชื่อใจ ตลอดจนความเข้าใจที่มีต่อกันมากยิ่งขึ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การสัมมนาในครั้งนี้ จะช่วยอำนวยประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่โรงแรมนิวแทรเวิลลอร์ด อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี ได้จัดให้มีพิธีเปิดสัมมนาเรื่องการแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการเสริมสร้างความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โดยมีพลเรือตรี สุรชัย สังฆพงษ์ รองผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย พลตรี วรวิทย์ ดรุณชู รองเจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พลเรือตรี ประเสริฐ ชื่นจิตต์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดจันทบุรี และนายกรียงเดช เข็มทอง ปลัดจังหวัดจันทบุรี ร่วมในพิธีเปิดด้วย
โดยมีผู้เข้าร่วมในการสัมมนาครั้งนี้ ก็จะประกอบไปด้วย หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด จันทบุรี ตำรวจ ทหาร โดยมีสาระสำคัญในเรื่องความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา/เรื่อง เขตแดนไทย-กัมพูชาด้านจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข และเรื่องการแบ่งพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา
พลเรือตรี สุรชัย สังฆพงษ์ รองผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี และตราด กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการสัมมนาที่มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และประสบการณ์ รวมทั้งนำปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนมาตีแผ่ให้ได้รับรู้อย่างแพร่หลาย ซึ่งจะนำไปสู่การพิจารณาหาข้อสรุป มาตรการ และแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับความเป็นจริง และเป็นไปตามนโยบายของหน่วยเหนือ
โดยมีการแก้ไขที่เป็นรูปธรรมชัดเจน มุ่งให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจความสัมพันธ์ และความเข้าใจที่ดีระหว่างไทย และกัมพูชา มากยิ่งขึ้น ปัจจุบันปัญหาตามแนวชายแดนมีความหลากหลาย และมีความสลับซับซ้อน ยากแก่การแก้ไขหากไม่ได้รับการเอาใจใส่อย่างจริงจังจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะปัญหาแรงงาน ผิดกฎหมาย ปัญหายาเสพติด การโจรกรรมยานพาหนะ อาชญากรรมข้ามชาติในรูปแบบต่างๆ
จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยศักยภาพของผู้ที่รู้ และปฏิบัติจริงจากทุกหน่วยงาน และทุกองค์กรที่ได้คลุกคลีอยู่กับพื้นที่ชายแดนจังหวัดจันทบุรี-ตราด มาร่วมกันบูรณาการ และทุ่มเทความรู้ ความสามารถ กำลังกาย และกำลังใจที่มีอยู่ ช่วยกันเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ รับผิดชอบของเราอย่างเต็มกำลังความสามารถ
นอกจากจะก่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อประชาชน และสังคมโดยรวมในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศแล้ว ยังจะเกื้อกูลให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน มีความแน่นแฟ้น และมีความไว้เนื้อเชื่อใจ ตลอดจนความเข้าใจที่มีต่อกันมากยิ่งขึ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การสัมมนาในครั้งนี้ จะช่วยอำนวยประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น