ศรีสะเกษ - แม่ทัพภาคที่ 2 นำคณะบุกตรวจเยี่ยมสร้างขวัญกำลังใจ และมอบสิ่งของแก่ทหารไทยบน “เขาพระวิหาร” พร้อมพบปะจับมือกับแม่ทัพเขมร เผยทั้ง 2 ฝ่ายรอรับคำสั่งปรับกำลังจากหน่วยเหนือ ด้านแกนนำธรรมยาตราฯ ซัดรัฐบาล “หุ่นเชิด” ห่วงกอดเก้าอี้รัฐมนตรี ไม่เคยเหลียวแลทหารไทยที่เอาชีวิตเลือดเนื้อเข้าปกป้องรักษาอธิปไตยในเขาพระวิหาร ต่างกันลิบกับรัฐบาล “ฮุน เซน” ที่เปิดเกมรุกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ที่วัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ หรือ วัดคีรีสุขสวาย ซึ่งตั้งอยู่บนเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณโคปุระชั้นที่ 1 ด้านทิศตะวันตกประสาทพระวิหาร และเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้มีการปักปันเขตแดน ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) พร้อมด้วย พล.ต.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 และคณะจากกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสร้างขวัญกำลังใจทหารไทยที่ตรึงกำลังเผชิญหน้ากับทหารกัมพูชา
พร้อมทั้งได้นำเอาสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวนมากไปมอบให้กับทหารไทย โดยมี พ.อ.ชยันต์ หวยสูงเนิน รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) เป็นตัวแทนรับมอบ เพื่อนำเอาไปแจกจ่ายให้กับทหารไทยต่อไป ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ไปพบปะกับ พล.ท.ซรัย ดึ๊ก ผบ.พล สนับสนุนที่ 12 กัมพูชา และคณะ พร้อมทั้งได้จับมือกับ พล.ท.ซรัย ดึ๊ก และนายทหารระดับสูงของกัมพูชา เพื่อแสดงความเป็นมิตรต่อกันด้วย
พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ ก็เพื่อมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติภารกิจของทหารกองกำลังสุรนารี และรับทราบสถานการณ์ในพื้นที่ พร้อมทั้งได้มอบสิ่งของให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจรักษาพื้นที่ และเฝ้าตรวจชายแดนด้านปราสาทพระวิหารเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหารไทยทุกคน
สถานการณ์ขณะนี้ แม้ว่า ทหารทั้งสองฝ่ายยังคงวางกำลังในลักษณะการเผชิญหน้ากันอยู่เช่นเดิม แต่ไม่มีความตรึงเครียดแต่อย่างใด เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันของหน่วยทหารในพื้นที่ ซึ่งทั้งสองฝ่ายยังคงรอการสั่งการจากหน่วยเหนือของตัวเองให้ปฏิบัติต่อไป ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการประชุมระดับทวิภาคีระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของไทยและกัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนจะมีการปรับกำลังทหารเมื่อใดนั้นจะต้องรอคำสั่งจากหน่วยเหนือซึ่งทหารไทยทุกนายพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งทันที
ทางด้าน นายวิชาญ ทับซ้อน แกนนำกลุ่มธรรมยาตรากอบกู้รักษาแผ่นดินไทยกรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา ซึ่งขณะนี้กลุ่มธรรมยาตราฯ ได้ปักหลักนั่งปฏิบัติธรรมประท้วงอยู่ที่ บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า หากเปรียบเทียบระหว่างรัฐบาล 2 ประเทศแล้ว จะเห็นชัดเจนว่า ผู้ใหญ่ระดับสูงของรัฐบาลกัมพูชาจะดำเนินการเชิงรุก และให้ความสนใจการปฏิบัติหน้าที่ของทหารในพื้นที่ชายแดนเขาพระวิหารเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกรณี นางบุน รานี ฮุนเซน ภริยา นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้เดินทางตรวจเยี่ยมมอบสิ่งของสร้างขวัญกำลังใจทหารกัมพูชา และประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเอง เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา และก่อนหน้านี้ พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ก็ได้มาเยี่ยมทหารกัมพูชาบนเขาพระวิหารเช่นกัน
นายวิชาญ กล่าวต่อว่า แต่เมื่อย้อนกลับมามองดูทหารไทยที่ตรึงกำลังอยู่บนเขาพระวิหารแล้ว ปรากฏว่า ไม่เคยมีผู้บริหารระดับสูงจากรัฐบาลมาเยี่ยมให้กำลังใจทหารไทยที่เอาชีวิต และเลือดเนื้อมาปกป้องเฝ้ารักษาอธิปไตยไทยในเขาพระวิหารเลย มีเพียงนายทหารระดับสูงบางคนเท่านั้นที่มาตรวจเยี่ยมในพื้นที่ ทั้งที่ฝ่ายรัฐบาลกัมพูชาเปิดเกมรุกในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
“การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของไทยในพื้นที่ชายแดนเขาพระวิหารดูเหมือนว่าไม่เคยได้รับความสนใจจากผู้นำรัฐบาล รวมทั้งคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเลย แต่รัฐมนตรีทุกคนกลับมัวจ้องแต่รักษาเก้าอี้ของตัวเองเท่านั้น เพราะ กลัวว่าจะถูกปลดออกจากเก้าอี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากสำหรับประเทศไทย” นายวิชาญ ซึ่ง เป็น 1 ใน 3 คน ไทยที่ถูกทหารกัมพูชาจับตัวไป กล่าว