ศูนย์ข่าวศรีราชา - เรือยอชต์นำเที่ยวมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท พานักท่องเที่ยวตกปลากลางทะเล เกิดเพลิงลุกไหม้อับปาง นักท่องเที่ยวกระโดดน้ำหนีตายลอยคอกว่า 3 ชั่วโมง
วันนี้ (3 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ศูนย์กู้ภัยทางทะเลเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากเรือประมง โชคหิรัญนาวิน ว่า มีเรือยอชต์นำเที่ยวเกิดอุบัติเหตุไฟลุกไหม้อับปาง และมีนักท่องเที่ยวกระโดดน้ำหนีตายลอยคออยู่กลางทะเลที่บริเวณกลางอ่าวพัทยาใกล้กับเกาะไผ่ ห่างจากฝั่งประมาณ 22 กิโลเมตร ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่จึงนำเรือยาง และอุปกรณ์ช่วยเหลือรุดตรวจสอบทันที
ไปถึงที่เกิดเหตุพบเพียงเศษซากเรือที่ถูกเปลวเพลิงเผาจนวอดทั้งลำ ลอยอยู่ผิวน้ำ ส่วนตัวเรือได้อับปางจมลงสู่ก้นทะเลแล้ว ทราบชื่อ คือ เรือ เอกชัย อี.เค.ซึ่งเป็นเรือยอชต์นำเที่ยวมีความสูง 2 ชั้น มีความยาวของลำเรือ 23 เมตร ความกว้าง 5 เมตร ที่กลางทะเลพบมีชายไทยจำนวน 6 คน เป็นนักท่องเที่ยว 4 คน คนขับเรือ 1 คน และช่างเครื่อง 1 คน พากันลอยคออยู่ด้วยอาการหนาวสั่นและอ่อนเพลีย จึงทำการช่วยเหลือ
ทราบชื่อคือ นายถารัญดร โสมรักษ์ อายุ 33 ปี นายรวมสิน โสมรักษ์ อายุ 30 ปี นายบันเทิง บุญถึง อายุ 31 ปี และ นายวรวัฒน์ ดีรบรัมย์ อายุ 30 ปี เบื้องต้นนักท่องเที่ยวทั้ง 4 คน ได้เล่าว่าทำงานอยู่ที่เดียวกัน ได้พากันมาเช่าเรือยอชต์ลำดังกล่าว เพื่อพากันออกไปตกปลากลางทะเล โดยเสียค่าใช้จ่ายในราคา 2 หมื่นบาท ต่อ 1 คืน โดยเดินทางจากท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย เมื่อเวลา 16.00 น.ของเย็นวันที่ 2 ส.ค.2551 ที่ผ่านมา
จากนั้นเรือได้มุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อจอดลอยลำตกปลาจนเช้ามืด ขณะกำลังกันนั่งตกปลา จู่ๆ เครื่องยนต์ก็เกิดขัดข้องและมีประกายไฟลุกไหม้ห้องเครื่องอย่างรวดเร็ว จึงได้พากันวิ่งไปหยิบถังดับเพลิงมาฉีดสกัด แต่ก็ไม่สามารถดับเปลวเพลิงได้ จึงได้คว้าเสื้อชูชีพมาสวมแล้วพากันกระโดดลงน้ำหนีตาย ส่วนเรือยอชต์ถูกเปลวเพลิงเผาจนเสียหายทั้งลำ ก่อนจะจมลงสู่ก้นทะเล จากนั้นก็พากันลอยคออยู่ท่ามกลางความมืดนานกว่า 3 ชั่วโมง จนมีคนมาพบและแจ้งทางเจ้าหน้าที่ทราบ
ทางด้าน นายสุพจน์ แซ่เอี้ยว อายุ 44 ปี คนขับเรือ ให้การว่า เรือยอชต์ลำดังกล่าวนั้น มีอายุการใช้งานมาประมาณ 12 ปี และได้มีการตกแต่งซึ่งมีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท โดยขณะเกิดเหตุนั้นได้ติดเครื่องยนต์ไว้ เพื่อใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่างบนตัวเรือ จนกระทั่งมีเสียงระเบิดดังมาจากห้องเครื่องยนต์ ก่อนจะเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงดังกล่าว
