xs
xsm
sm
md
lg

สั่งแบนรายการวิทยุดีเจดัง “สุรสีห์ ผาธรรม” เหตุยืนข้างพันธมิตรฯช่วยทวงคืนปราสาทพระวิหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุรสีห์ ผาธรรม ดีเจชื่อดังจัดรายการ โสกันสองโมงเช้า ประกาศอำลาการจัดรายการหลังถูกท้วงติงวางตัวไม่เป็นกลางทางการเมือง
อุบลราชธานี- การเมืองท้องถิ่นเมืองดอกบัว สั่งแบนรายการ “โสกันสองโมงเช้า” ที่มีดีเจผู้กำกับตุ๊กตาทอง “สุรสีห์ ผาธรรม” จัดรายการ อ้างเหตุวางตัวไม่เป็นกลาง เหตุนำประเด็นทวงคืนปราสาทเขาพระวิหาร และสนับสนุนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯมาออกรายการ สุรสีห์ ย้ำจุดยืนสื่อไม่จำเป็นต้องวางตัวเป็นกลาง หากทำแล้วประเทศชาติจะเสียหาย ส่วนเจ้าของสถานีครวญ ได้พูดคุยให้เลี่ยงการนำเสนอประเด็นการเมืองไว้ก่อน แต่เมื่อไม่ฟังก็ต้องให้หยุดไปก่อน ไม่ให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง

วันนี้ (23 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอุบลราชธานี ได้รับแจ้งว่า รายการวิทยุของสถานีชุมชนคลื่น 97.5 อปพร.ที่มี นายสุรสีห์ ผาธรรม ผู้กำกับภาพยนตร์ตุ๊กตาทองและเพื่อน เป็นผู้ดำเนินรายการวิเคราะห์ข่าวระหว่างเวลา 08.00-09.00 น.จันทร์-ศุกร์ ใช้ชื่อรายการ “โสกันสองโมงเช้า” ประกาศอำลาผู้ฟังรายการ โดยให้เหตุผลยุติรายการ เพราะได้รับแจ้งจากนายสถานี ว่า มีผู้ฟังร้องเรียนจัดรายการไม่เป็นกลาง เนื่องจากนำเสนอข่าวสารการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนำเสนอข่าวทวงคืนเขาพระวิหาร จะทำให้บ้านเมืองแตกแยกมากยิ่งขึ้น จึงถูกขอให้ยุติการจัดรายการช่วงนี้ไปก่อน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสุรสีห์ ว่า รูปแบบการจัดรายการ “โสกันสองโมงเช้า” เป็นรายการสาระเชิงข่าวสาร นำเสนอข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ ในท้องถิ่นและจากส่วนกลางครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม บันเทิง และการเมือง โดยนำรายละเอียดเหตุการณ์มาเล่าให้ผู้ฟังทราบ และช่วงท้ายรายการมีการตั้งประเด็นให้ผู้ฟังเข้ามาร่วมแสดงความเห็น ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน

ช่วงนี้ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่น่าสนใจ คือ การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกรณีเขาพระวิหาร ที่ไทยอาจต้องสูญเสียดินแดนเพิ่มเติมจากการทำหน้าที่ที่ผิดพลาดของรัฐบาล

“ถือเป็นหน้าที่ของสื่อมวลชนที่ต้องบอกให้ประชาชน ทราบว่า กำลังเกิดอะไรขึ้นในประเทศนี้ ถ้าจะกล่าวหาว่าตนและทีมงานเลือกข้างก็ถูกต้อง เพราะวันนี้สื่อมวลชนจะมัวแกล้งทำตัวเป็นกลางแล้วประเทศชาติเสียหาย จะเป็นสื่อมวลชนไปทำไม” นักจัดรายการรายนี้ กล่าวและว่า

เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ประชาชนจะได้รู้เสียที และเลือกเลยว่าควรจะยืนอยู่ข้างไหน เพราะความจริงสังคมแตกแยกกันชัดเจนแล้ว สำหรับการดำเนินรายการของสถานีวิทยุชุมชน ไม่ใช่จะมีรายการของตนรายการเดียวที่นำเสนอข้อมูลของกลุ่มพันธมิตรฯ หรือกรณีเขาพระวิหาร ยังมีสถานีวิทยุชุมชนอื่นอีก เช่น คลื่น 101.2 เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งดำเนินรายการโดย ผศ.วิรัตน์ ทองเรือง ก็ประกาศตัวชัดเจนยืนข้างพันธมิตรฯ และต้องการทวงผืนดินของไทยบนเขาพระวิหารด้วย

แต่สถานีวิทยุดังกล่าวไม่ได้รับผลกระทบ เพราะผู้จัดรายการเป็นเจ้าของสถานีวิทยุเอง ขณะเดียวกัน ก็ยังมีสถานีวิทยุที่ต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ คือ คลื่น 93.75 นครอุบล ที่เจ้าของสถานีเป็นอดีตนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ผู้ดำเนินรายการช่วง “ชักธงรบ” ระหว่างเวลา 05.00-06.00 น.มีการใช้ถ้อยคำยั่วยุให้คนไม่ชอบกลุ่มพันธมิตรฯออกมาฆ่าแกงกัน ก็สามารถจัดรายการได้

นายสุรสีห์ กล่าวต่อว่า ผิดกับรายการของตนที่นำเสนอข่าวแบบสันติวิธีให้ความรู้กับผู้ฟัง เพราะคนฟังรายการของตนส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุ เป็นคนมีความรู้ ไม่ใช่พวกสุดโต่งไม่ฟังเหตุผลอะไร แต่ก็ถูกเล่นงาน และเชื่อว่า มีการเมืองอยู่เบื้องหลังการยุติรายการของตน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ตกลงใจจะไปจัดรายการต่อที่สถานีไหน จะขอดูเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ ก่อน นักจัดรายการรายนี้ กล่าวในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับรายการ โสกันสองโมงเช้า ได้ย้ายรายการจากสถานีวิทยุที่เคยจัดมาที่สถานีวิทยุชุมชน อปพร.ได้ประมาณ 1 ปี โดยไม่ต้องเสียค่าเช่าเวลา แต่เมื่อมีรายได้จะแบ่งให้กับทางสถานีตามที่ตกลงกันไว้ และมีผู้ร่วมดำเนินรายการรวม 4 คน คือ นายสมศักดิ์ รัฐเสรี นายกสมาคมสื่อมวลชนอุบลราชธานี, นายชวลิต ผ่องแผ้ว, นายขุพนพล แดนอีสาน และ นายสุรสีห์ ผาธรรม

สำหรับ นายสุรสีห์ ปัจจุบันนอกจากเป็นนักจัดรายการวิทยุแล้ว อดีตยังเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังหลายเรื่อง และเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ตุ๊กตาทองยอดเยี่ยมประจำปี 2526 จากเรื่อง ผู้แทนนอกสภา แต่ภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงและทำให้เป็นที่รู้จักอย่างมาก คือ “ครูบ้านนอก” นำแสดงโดย ปิยะ ตระกูลราษฎร์ และ วาสนา สิทธิเวส ซึ่งได้รับรางวัลผู้กำกับภาพยนตร์สร้างสรรค์เยาวชนดีเด่นจากการประกวดภาพยนตร์ของประเทศรัสเซีย ปี 2521 ล่าสุดได้รับรางวัลศิลปินมรดกอีสานสาขาภาพยนตร์จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น

ด้านนายกิตติพงษ์ ภูธรโยธิน หรือ ดีเจหนุ่มสยาม เจ้าของสถานีวิทยุชุมชน อปพร.97.5 และเป็นประธาน อปพร.จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้ให้ยุติรายการ แต่ให้เว้นช่วงรายการไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์การเมืองอ่อนไหวมาก และสถานีได้รับการต่อว่าจากสมาชิก อปพร.รวมทั้งผู้ฟังคนอื่นที่ไม่เห็นด้วยในการนำเสนอของรายนี้ จึงหาทางออกด้วยการให้เว้นระยะจัดรายการไปสักพัก เมื่อแจ้งให้ผู้จัดรายการทราบเมื่อวาน วันนี้ ผู้ดำเนินรายการก็ประกาศยุติรายการทันที ทั้งที่ให้เวลาอำลาผู้ฟังได้ถึงวันศุกร์ก็ตาม

สำหรับกรณีที่มีข่าวออกมาว่าเป็นคำสั่งจากเบื้องบน ที่เป็นอดีตนักการเมืองให้ยุติรายการนั้นไม่เป็นความจริง แต่ได้มีการพูดคุยหารือกับผู้จัดรายการมาก่อนโดยขอให้พยายามเลี่ยงกล่าวถึงสถานการณ์การเมือง เพราะไม่ต้องการให้สถานีถูกมองว่าเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และจุดประสงค์การตั้งสถานีต้องการบอกข่าวสารในท้องถิ่นและสร้างความบันเทิงให้ผู้ฟัง ไม่เน้นเรื่องการเมืองมากนัก เมื่อมีความเข้าใจไม่ตรงกันก็จำเป็นต้องหยุดไว้ก่อน อนาคตหากทุกอย่างดีขึ้นก็กลับมาจัดกันใหม่ได้
นายกิตติพงษ์ ภูธรโยธิน หรือ ดีเจหนุ่มสยาม เจ้าของสถานีวิทยุชุมชน อปพร.97.5 และเป็นประธาน อปพร.จังหวัดอุบลราชธานี
กำลังโหลดความคิดเห็น