ศรีสะเกษ – กกล.สุรนารี นำคณะสื่อมวลชน บุกพิสูจน์ทหารไทย-กัมพูชา ตรึงกำลังเผชิญหน้าบนเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา รอง ผบ.กกล.สุรนารี เผย เหตุการณ์ไม่ตึงเครียดทหารทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงอยู่ร่วมกันด้วยความสันติ มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน จนกว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูง จะตัดสินใจสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วจะปฏิบัติตาม ระบุ รอฟังผลเจรจาแก้ไขปัญหาระหว่างรัฐบาล 2 ประเทศพรุ่งนี้ ขณะที่ทหารไทยระดมกำลังทหารและปืนใหญ่มาเสริมกำลังมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ช่วงบ่ายวันนี้ (20 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พล.ต.กนก เนตระคะเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) ได้มอบหมายให้ พ.อ.ไชยอนันต์ คำชุ่ม รองเสนาธิการ กกล.สุรนารี พร้อมด้วย พ.ท.วิชิต มักการุณ หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน กกล.สุรนารี นำคณะสื่อมวลชนทุกแขนงขึ้นไปสำรวจพื้นที่เชิงเขาพระวิหาร และวัดชาวกัมพูชา บริเวณปราสาทโคปุระ ชั้นที่ 1 ด้านทิศตะวันตกของปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทยังไม่มีการปักปันเขตแดน และขณะนี้ทหารไทย-ทหารกัมพูชา มีการตรึงกำลังกันอยู่จำนวนมาก
โดยตาม 2 ฝั่งเส้นทางจากเชิงเขาพระวิหารที่ไปสู่วัดชาวกัมพูชาดังกล่าว นั้น มีกำลังทหารไทยและทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธหนักเบาครบมือตรึงกำลังเผชิญหน้ากันอยู่อย่างใกล้ชิด แต่ละจุดห่างกันไม่ถึง 20 เมตรเท่านั้น ซึ่งทหารไทยและกัมพูชาได้พูดคุยกันตามปกติไม่แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ตึงเครียดแต่อย่างใด แต่ได้เฝ้าระวังซึ่งกันและกันค่อนข้างเข้มข้น ทั้งนี้เพราะทหารแต่ละฝ่ายล้วนแต่มีอาวุธครบมือประจำกายทุกคนที่พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจขึ้นได้ตลอดเวลา
ทั้งนี้ คณะของ พ.อ.ไชยอนันต์ ได้นำคณะสื่อมวลชนทุกแขนงไปสำรวจรอบบริเวณเชิงเขาพระวิหาร ที่มีการตรึงกำลังกันของทหารทั้ง 2 ฝ่าย หลายจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณวัดที่ชาวกัมพูชามาปลูกสร้างอยู่นั้น มีพระสงฆ์อยู่ประมาณ 30 รูป ซึ่งล้วนแต่เป็นพระเพิ่งบวชใหม่ทั้งสิ้น ขณะที่ทหารไทยพร้อมอาวุธครบมือได้สร้างเต็นท์ที่พัก และแขวนเปลสนามอยู่รอบบริเวณวัดที่มีการตรึงกำลังกันอยู่
ส่วนทหารกัมพูชา ซึ่งส่วนมากแล้วอายุค่อนข้างน้อยพร้อมอาวุธครบมือ ก็ปักหลักกางเต็นท์ แขวนเปลสนามพักอยู่ไม่ห่างจากทหารไทย โดยทหารทั้ง 2 ฝ่าย ได้พูดคุยกันสนทนาปราศรัยกันตามปกติ และมีการจับมือกันแสดงถึงความเป็นมิตรให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพอีกด้วย
พ.อ.ชยันต์ หวยสูงเนิน รอง ผบ.กกล.สุรนารี กล่าวว่า ทหารไทยได้เข้ามาตรึงกำลังที่บริเวณนี้ เนื่องจากคนไทยกลุ่มธรรมยาตรา กอบกู้รักษาแผ่นดินไทย กรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา จำนวน 3 คน ปีนรั้วประตูเหล็ก เข้าไปในเขตพื้นที่ที่ยังไม่มีการปักปันเขตแดน ทำให้มีปัญหา ซึ่งทหารไทยและทหารกัมพูชาได้มีการเจรจาเพื่อความเข้าใจกันและกันได้เป็นอย่างดี
สำหรับข้อตกลงต่างๆ นั้น ได้มีการเจรจาพูดคุยกันระดับ ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชากับผบ.กกล.สุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ว่า ทหารไทยและทหารกัมพูชาจะอยู่ร่วมกันบริเวณนี้ด้วยความสันติ มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน จนกว่าผู้บังคับบัญชาชั้นสูงจะตัดสินใจสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วเราก็จะปฏิบัติตาม ซึ่งการเจรจาเพื่อแก้ปัญหาระดับรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ จะมีขึ้นในพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) ที่อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ขณะนี้สถานการณ์การตรึงกำลังระหว่างทหารไทย-กัมพูชา บริเวณเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยภาพรวมขณะนี้ไม่ได้ตึงเครียดแต่อย่างใด ทั้งนี้ เนื่องจากพวกเราปฏิบัติราชการในพื้นที่นี้มาก่อน อีกทั้งผู้บัญชาการทหารกัมพูชาที่ควบคุมดูแลเขาพระวิหารแห่งนี้ก็มีความรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อน ซึ่งได้ชี้แจงให้ทราบถึงความจำเป็นที่ต้องมาอยู่ตรงนี้ให้ทราบ และเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ทำให้อยู่ได้อย่างมีสันติและมีมิตรภาพต่อกัน
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณวัดเขาพระวิหารแห่งนี้ ได้มีการตกลงกันว่าจะอยู่กันอย่างมีมิตรภาพต่อกัน มีอะไรก็จะพูดคุยกัน ตอนกลางคืนก็จะต่างคนต่างอยู่ ไม่มีการเคลื่อนไหวไปไหน ถ้ามีเหตุการณ์อะไรก็จะมาพูดคุยกัน ซึ่งภายในบริเวณวัดจะเป็นเขตปลอดกำลังทหาร จะมีเฉพาะประชาชนและพระชาวกัมพูชาเท่านั้นที่จะอยู่ภายในบริเวณวัดแห่งนี้” พ.อ.ชยันต์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม เป็นสังเกตว่า ตลอดทั้งวันนี้ (20 ก.ค.) ฝ่ายทหารไทยได้มีการระดมกำลังทหารและปืนใหญ่มาเสริมกำลังที่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มากขึ้นกว่าเดิม