ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ประเพณีแห่เทียนพรรษาโคราชคึกคัก นักท่องเที่ยวไทย-เทศเรือนหมื่นหลั่งไหลเข้าชมขบวนเทียนยิ่งใหญ่อลังการกว่า 50 ขบวน ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด “วัดน้ำไหล” อ.เฉลิมพระเกียรติ เจ้าของไอเดียเทียนล้อการเมือง “เรือเมืองไทย” คว้ารางวัลชนะเลิศประเภท ข. รับเงินรางวัลพร้อมถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ ไปครอง ส่วนประเภท ก. วัดใหม่สระปทุม อ.โชคชัย ชนะใจกรรมการชนะเลิศ 4 ปีซ้อน
วันนี้ (18 ก.ค.) สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา ประจำปี 2551 “แห่เทียนพรรษา พุทธบูชา สืบสานวัฒนธรรมโคราช” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันเข้าพรรษา ที่ จ.นครราชสีมา เป็นไปด้วยความคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศกว่า 10,000 คน ให้ความสนใจเฝ้ารอชมขบวนแห่เทียนพรรษาที่คุ้มวัดต่างๆ จัดส่งเข้าประกวดทั้งประเภท ก. ข. และ ค. เต็ม 2 ฟากฝั่งตามถนนสายหลักในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด
ในปีนี้มีขบวนต้นเทียนพรรษาส่งเข้าประกวดรวม 51 ขบวน ทั้งหมดได้เคลื่อนขบวนไปตามถนนสายหลักในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งสองฟากฝั่งถนนได้ชมความวิจิตรงดงามของต้นเทียนที่ทีมช่างเทียนแต่ละคุ้มวัด ที่ได้ใช้เวลาในการทำนานกว่า 3 เดือน เพื่อส่งเข้าร่วมงานในครั้งนี้
นอกจากขบวนต้นเทียนแล้ว ยังมีขบวนแห่ที่สร้างความคึกคักสนุกสนานให้แก่ผู้ชมเป็นอย่างมาก ซึ่งแต่ละขบวนมีความแตกต่างกันไป เช่น ขบวนเทิดพระเกียรติในหลวง, ขบวนวิถีชีวิตพอเพียงตามแนวพระราชดำริ, ขบวนน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์, ขบวนลดภาวะโลกร้อน, ขบวนการแสดงศิลปวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น, ขบวนนรกสวรรค์, ขบวนสะท้อนปัญหาสังคมปัจจุบัน เป็นต้น
ส่วนขบวนต้นเทียนที่ได้รับความสนใจ จากบรรดานักท่องเที่ยวมากที่สุด เป็นต้นเทียนของวัดธรรมาภิรตาราม หรือวัดน้ำไหล ต.พระพุทธ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ที่หล่อเทียน ล้อเลียนการเมือง ภายใต้ชื่อ “เรือเมืองไทย” ส่งเข้าประกวดในประเภท ข. ต้นเทียนสูงไม่เกิน 3 เมตร
นอกจากนี้ยังมีขบวนต้นเทียนของวัดสระเพลง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ซึ่งหล่อเทียนรูปเหมือนนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี นั่งพายเรืออยู่ด้านท้าย ส่วนอีกด้านของเรือมีรูปหล่อของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นั่งพายเรือเช่นกัน
จากนั้น ขบวนต้นเทียนทั้ง 51 ขบวน ได้จอดแสดงไว้ริมถนนทั้งด้านหน้าและด้านหลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) คือ ถนนชุมพล และ ถนนราชดำเนิน 2 ขเพื่อให้ประชาชน นักท่องเที่ยวได้ชมความสัมผัสงดงามของต้นเทียนอย่างใกล้ชิดและถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกไปจนถึงเช้าวันพรุ่งนี้ (19 ก.ค.)
ส่วนภาคค่ำวันนี้ (18 ก.ค.) ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ย่าโม ต่อเนื่องจนถึงสวนรักษ์ จะมีการแสดงมหรสพ พร้อมออกร้านจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ของดีเมืองโคราช ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมและซื้อสินค้ากันตลอดทั้งคืน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผลการประกวดต้นเทียนพรรษาของ จ.นครราชสีมา ในปีนี้ ปรากฏว่า วัดที่ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภท ก. ต้นเทียนสูง 3 เมตรขึ้นไป คือ วัดใหม่สระปทุม อ.โชคชัย ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ 4 ปีซ้อน รับเงินรางวัล 80,000 บาท พร้อมด้วยรางวัลพระราชทานของสมเด็จพระเทพฯ, รองชนะเลิศคือ วัดนอก อ.โชคชัย และลำดับที่ 3 วัดโบสถ์คงลาล้อม อ.โชคชัย
สำหรับต้นเทียนประเภท ข. ความสูงไม่เกิน 3 เมตร วัดที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คือ วัดธรรมาภิรตาราม หรือวัดน้ำไหล เจ้าของต้นเทียนล้อการเมืองภายใต้ชื่อ “เรือเมืองไทย” รับเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ, รองชนะเลิศเป็นของวัดบูรพาภิมนต์ อ.พิมาย และลำดับที่ 3 เป็นของวัดใหม่สระปทุม อ.พิมาย
ขณะนี้ที่ ต้นเทียนประเภท ค. ความสูงไม่เกิน 1.8 เมตร รางวัลชนะเลิศเป็นของ วัดพิชิตคเชน อ.โชคชัย ส่วนขบวนแห่ที่ได้รางวัลชนะเลิศคือ ขบวนแห่ของวัดโบสถ์คงคาล้อม