ศรีสะเกษ – แฉ “นายก อบต.” ทาส ส.ส.พลังแม้ว นำม็อบชาวบ้านเมาเหล้า ขวางถนนสกัดกั้นและขว้างปาทำร้าย กองทัพ ปชช.กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ให้ขึ้นไปประกาศเจตนารมณ์บนอุทยานฯ เขาพระวิหาร จนเกิดเหตุปะทะเดือดได้รับบาดเจ็บหลายคน เผยผู้ว่าฯ รุดเจรจาและตำรวจระดมกำลัง 400 นาย ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ก่อนกลุ่มพันธมิตรฯ ฝ่าด่านไปอ่านแถลงการณ์ได้สำเร็จ ด้าน 3 แกนนำถูกเขมรจับตัวไป และอยู่ในการดูแลทหารไทย ถูกปล่อยตัวมาร่วมปฏิบัติธรรมอยู่กับกลุ่มธรรมยาตราฯ ที่ผามออีแดง เช่นเดิมแล้ว
วันนี้ (17 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น.ที่บริเวณทางโค้งถนนกันทรลักษ์-เขาพระวิหาร บ้านโนนขาดขาด ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประมาณ 3,000 คน นำโดย นายวีระ สมความคิด นำกลุ่มพันธมิตรฯ จากหลายจังหวัด พร้อมขบวนรถยนต์ จะเดินทางไปที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เพื่อชุมนุมทวงคืนเขาพระวิหาร ขับไล่ชาวกัมพูชาออกไปจากเขตแดนไทย ที่เชิงเขาพระวิหาร พร้อมให้กำลังใจทหารไทยที่ตรึงกำลังปกป้องแผ่นดินไทยอยู่ชายแดนเขาพระวิหาร
แต่ปรากฏว่า ได้มีกลุ่มชาวบ้านภูมิซรอล ประมาณ 200 คน นำโดย นายบุญมี บัวต้น นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสาธงชัย กลุ่มของ นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคพลังประชาชน (พปช.) ได้นำชาวบ้านปิดถนนพร้อมทั้งตั้งเต็นท์ กลางถนน ไม่ให้ผู้ใดผ่านขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารยกเว้นรถตำรวจและทหารเท่านั้น
เมื่อกลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนขบวนมาถึงบริเวณดังกล่าวนี้ได้เกิดการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย แต่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนำโดย พ.ต.อ.วัฒนา เงินหมื่น และ พ.ต.อ.นิคม อินเฉิดฉาย รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ และทางฝ่ายกลุ่มพันธมิตรฯ ได้กลับย้อนมารวมตัวกันพร้อมเปิดเวทีปราศรัยอยู่ที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อรอกลุ่มพันธมิตรฯ จากจังหวัดต่างๆ มาสมทบเพิ่มเติม
ต่อมากลุ่มพันธมิตรฯ ได้เคลื่อนขบวนเดินเท้า เพื่อที่จะขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารอีกครั้ง โดยกลุ่มชาวบ้านได้ตั้งแถวรอสกัดกั้นอยู่ที่บริเวณทางโค้งบ้านโนนขาขาดเช่นเดิม ซึ่งทางตำรวจได้เชิญแกนนำทั้ง 2 กลุ่มมาร่วมกันเจรจาแต่ไม่เป็นผล
ต่อมาเวลา 17.15 น.นายวีระ สมความคิด ได้ขึ้นไปบนหลังคารถบรรทุก 6 ล้อติดเครื่องขยายเสียง แจ้งให้กลุ่มพันธมิตรฯ ทุกคนทราบว่า ในการเจรจากันทางชาวบ้านจะให้ตัวแทนกลุ่มพันธมิตรฯ เข้าไปที่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้เพียง 50 คนเท่านั้น ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่พอใจและโห่ร้องขึ้น
จากนั้นปรากฏว่า กลุ่มชาวบ้านได้ขว้างไม้และขวดเหล้าเข้าไปในกลุ่มของพันธมิตรฯ ที่รวมกลุ่มกันอยู่เต็มถนนกว่า 3,000 คน โดยมีตำรวจอยู่ตรงกลาง ทำให้กลุ่มพันธมิตรฯได้รับบาดเจ็บและได้เกิดการปะทะกันขึ้น
โดยส่วนมากแล้ว ชาวบ้านกลุ่มจัดตั้งของนักการเมือง จะมีอาการคล้ายกับคนเมาสุราได้ใช้ไม้เข้าไล่ตีกับกลุ่มพันธมิตรฯ จึงได้เกิดการใช้ไม้ไล่ตีกันขึ้น ซึ่งปรากฏว่า ทำให้แต่ละฝ่ายได้รับบาดเจ็บกันคนละเล็กละน้อย ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ ชาวบ้านใช้ไม้ขว้างเข้ามาใส่กลางที่ชุมนุมได้รับบาดเจ็บกันหลายคน ตำรวจต้องช่วยกันสกัดกั้นและห้ามปรามไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าไปไล่ตีกัน และสามารถแยกออกจากกันได้
แต่เนื่องจากว่ากลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย รวมแล้วมีจำนวนมาก ดังนั้น พล.ต.ต.พินิจ แฝงยงค์ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจำนวน 100 นาย มาเสริมกำลังกำลังกั้นระหว่างกลุ่มชาวบ้านและกลุ่มพันธมิตรฯ ออกจากกันโดยใช้โล่กำบังอยู่ด้านหน้า
ต่อมา นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เข้าไปเจรจากับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ อีกครั้ง เพื่อขอข้อยุติ แต่ปรากฏว่าไม่ได้ผล และ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ก็ได้มาพูดคุยกับกลุ่มแกนนำของชาวบ้านเช่นกัน แต่กลุ่มชาวบ้านยืนยันไม่ให้กลุ่มพันธมิตรฯ เข้าไปอทุยานแห่งชาติเขาพระวิหาร
ต่อมากลุ่มพันธมิตรฯ ได้ลุกฮือขึ้น และได้ช่วยกันแหวกด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปได้ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยอมให้ผ่านไปแต่โดยดี ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ ได้พากันเดินเท้าเข้าไปถึงบริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียม ทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแถวสกัดอยู่ประมาณ 100 นาย โดยมีลวดหนามกั้นทางเข้าเอาไว้
กลุ่มพันธมิตรฯ ได้รวมตัวกันอยู่บริเวณด่านทางเข้าอุทยานฯ ดังกล่าว และได้นำเอาสิ่งของเครื่องใช้ ขนมนมเนยไปมอบให้แก่ตัวแทนทหารไทย และได้อ่านแถลงการณ์เพื่อทวงคืนปราสาทพระวิหาร ซึ่งผู้ที่อ่านแถลงการณ์ คือ นายวัชรินทร์ สอนพูด แกนนำพันธมิตรจังหวัดศรีสะเกษ เนื่องจากว่า นายวีระ สมความคิด เจ็บคอจากการใช้เสียงมากไม่สามารถอ่านแถลงการณ์ได้ โดยหลังจากอ่านแถลงการณ์เสร็จแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯ ได้พากันแยกย้ายกลับด้วยความสงบเรียบร้อย
ทางด้าน นายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ในวันนี้ตนไม่คาดคิดว่ากลุ่มชาวบ้านจะถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อต่อต้านฝ่ายพันธมิตรฯ ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณนี้เป็นเขตพื้นที่ของนักการเมืองหลายคนที่ผูกพันกับกลุ่มพลังประชาชนมานานแล้ว
อย่างไรก็ตาม ถือว่าการดำเนินกิจกรรมในวันนี้ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้เป็นอย่างดี และตนจะได้หารือกับกลุ่มแกนนำเพื่อขับเคลื่อนในการผลักดันชาวกัมพูชาให้ออกไปจากเขตแดนไทยต่อไป
ทางด้าน พล.ต.ต.พินิจ แฝงยงค์ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ในวันนี้ตนระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจำนวน 400 นาย มาควบคุมดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง แต่ก็มีกลุ่มชาวบ้านและกลุ่มพันธมิตรฯ ปะทะกัน ทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่ เพื่อระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันกรณีเขาพระวิหารอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 15.00 น.ของวันนี้ (17 ก.ค.) 3 คนไทยที่เข้าไปอยู่ที่บริเวณวัดกัมพูชา บริเวณปราสาทโคปุระชั้น ที่ 1 ปราสาทเขาพระวิหาร หลังถูกฝ่ายกัมพูชาจับกุมตัวไปเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าในวันนี้ได้พากันกลับออกมาอยู่ร่วมปฏิบัติธรรมกับกลุ่มธรรมยาตรากอบกู้รักษาแผ่นดินไทย กรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา ที่บริเวณหน้าผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เช่นเดิมแล้ว
นายวิชาญ ทับซ้อน ที่ถูกทหารกัมพูชาจับตัวไป กล่าวว่า ตนได้รับการคุ้มครองดูแลจากทางทหารฝ่ายไทยเป็นอย่างดียิ่ง อีกทั้งทางฝ่ายกัมพูชาก็ได้ให้การต้อนรับตามความเหมาะสม ทั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรม และตนกับคณะได้ร่วมกันปฏิบัติธรรมกับพระชาวกัมพูชาอีก 5 รูป ที่บริเวณวัดกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง โดยมีชาวบ้านกัมพูชาจำนวนหนึ่งนำเอาข้าวปลาอาหารมาถวาย
ส่วน พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) ก็ยังคงอยู่ที่วัดกัมพูชา โดยมีกำลังทหารพรานไทยหลายร้อยนายพร้อมอาวุธครบมือคอยเฝ้ารักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ และมีกองกำลังทหารกัมพูชาอยู่จำนวนมากด้วยเช่นกันตามบริเวณชายแดนเชิงเขาพระวิหาร แต่ว่าไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด