ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “พล.ท.สุจิตร” แม่ทัพภาค 2 สั่งตรึงกำลังทหารคุมเข้มชายแดนเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ มั่นใจกัมพูชาปล่อยตัวคนไทย 3 คน กลับด้วยความปลอดภัย พร้อมประสานฝ่ายปกครอง และตำรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัยกลุ่มผู้ชุมนุม ระบุ หากบานปลายรุนแรงทหารในพื้นที่พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาทันที
วันนี้ (15 ก.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ให้สัมภาษณ์กรณีคนไทยกลุ่มธรรมยาตรา กอบกู้รักษาแผ่นดินไทย กรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา ถูกทางการฝ่ายกัมพูชาจับตัวไปจำนวน 3 คน เช้าวันนี้ (15 ก.ค.) ที่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ว่า ล่าสุด ทาง นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เจรจากับผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหารแล้วโดยคนไทยที่ถูกจับตัวไปจากการตรวจสอบ เป็นพระภิกษุสงฆ์ 1 รูป และเป็นผู้ปฏิบัติธรรมชาย-หญิง 2 คน ขณะนี้ปลอดภัยดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของ จ.พระวิหาร เป็นผู้ควบคุมตัวไว้
ในส่วนของทหารได้เจรจากับผู้บัญชาการหน่วยทหารภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา ไปแล้ว โดยฝ่ายทหารทางกัมพูชาแจ้งกลับมาว่า ผู้ที่ควบคุมตัวคนไทยไว้ไม่ใช่ทหารของหน่วยทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชาแต่อย่างใด แต่รับปากที่จะไปเจรจากับทางฝ่ายตำรวจที่ควบคุมตัวให้ คาดว่ากัมพูชาจะปล่อยตัวคนไทยทั้ง 3 คนกลับมาอย่างปลอดภัยภายในวันนี้แน่นอน
พล.ท.สุจิตร กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (14 ก.ค.) ซึ่งกลุ่มธรรมยาตราฯได้นั่งสมาธิอยู่บริเวณผามออีแดง แต่มีส่วนหนึ่งลักลอบปีนแนวรั้วลวดหนามที่ทางทหารทำไว้เข้าไป ซึ่งทางทหารไทยเราเข้าไปพูดคุยทางธรรมยาตราฯ แจ้งว่าต้องการมานั่งปฏิบัติธรรมในจุดระหว่างรั้วลวดหนามกับรั้วประตูเหล็กทางเข้าสู่เขาพระวิหารดังกล่าวจึงอนุญาต แต่ในช่วงเช้าปรากฏว่ามีผู้ปฏิบัติธรรมจำนวน 3 คนได้เล็ดลอดข้ามรั้วประตูเหล็กเข้าไปชุมนุมในฝั่งเชิงเขาพระวิหาร ที่ชาวกัมพูชาตั้งชุมชนอยู่และถูกควบคุมตัวไว้
ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางพล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบก.กกล.สุรนารี) และผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้ร่วมกันเดินทางลงพื้นที่เข้าประสานงานเพื่อขอรับตัวคนไทยทั้ง 3 คนกลับคืนมา คาดว่าการประสานงานไม่มีปัญหาแต่คงต้องใช้ระยะเวลาและขั้นตอนดำเนินการอยู่บ้าง
ในส่วนของฝ่ายทหาร กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังสุรนารี ได้ประสานกับทางผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางทหารกัมพูชาพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในการเจรากับฝ่ายตำรวจที่ควบคุมตัวคนไทย 3 คนไว้
“รั้วลวดหนามที่ทหารฝ่ายไทยทำไว้นั้น เนื่องจากหลังมีการชุมนุมของประชาชนที่แสดงออกถึงความรักชาติในพื้นที่ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ได้ชี้แจงไปแล้วว่าเพื่อไม่ต้องการให้ประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย คือ ไทยและกัมพูชาเผชิญหน้ากัน เพราะที่ผ่านมาเคยให้เข้าไปในพื้นที่ใกล้กัน ทางฝ่ายไทยก็ได้ไปแสดงออกถึงความรักชาติ ขณะเดียวกันทางฝ่ายกัมพูชาก็เริ่มแสดงออกเช่นกัน หากปล่อยให้อยู่ใกล้กันจนเกินไปอาจจะเกิดการกระทบกระทั่งและมีปัญหาในพื้นที่ชายแดนเกิดขึ้นได้จึงทำแนวรั้วลวดหนามไว้ และทางฝ่ายทหารสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่กลับมีการลักลอบออกไปนอกรั้วจึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น” พล.ท.สุจิตร กล่าว
หลังเกิดเหตุการณ์ควบคุมตัวคนไทย 3 คนไว้ทางกองทัพจะมีการส่งทหารเข้าไปตรึงกำลังตามแนวชายแดนเพิ่มเติมหรือไม่นั้น พล.ท.สุจิตร กล่าวว่า ขณะนี้กำลังทหารในพื้นที่มีเพียงพออยู่แล้ว และยังคงตรึงกำลังอยู่ตามแนวชายแดนดังกล่าว แต่จะต้องเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งในส่วนของกลุ่มผู้ชุมนุม ทุกวันหยุดจะมีประชาชนเดินทางมาชุมนุมเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก ในเรื่องนี้ได้ประสานงานไปยังฝ่ายปกครองโดยผู้ว่าราชการจังหวัดและตำรวจภูธรในพื้นที่ให้เข้ามาช่วยกันดูแลประชาชน เพราะทางฝ่ายทหารจะได้ดูแลในพื้นที่ชายแดน ส่วนการชุมนุมของประชาชนก็จะมอบหมายให้ทางจังหวัดฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยดูแล
หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงหรือเกิดการปะทะกันขึ้นทางฝ่ายทหารได้เตรียมการเรื่องนี้ไว้อย่างไรบ้าง พล.ท.สุจิตร กล่าวว่า การดำเนินการของฝ่ายทหารไม่มีปัญหา สามารถดำเนินการได้ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย หรือสั่งการได้ทันที และขอยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ทหารไทยยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทหารฝ่ายกัมพูชา ยังพูดคุยกันได้ดี
พล.ท.สุจิตร กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาจับคนไทยไป ทาง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้สั่งกำชับว่า ให้ดำเนินการให้ดีที่สุดและได้รายงานให้ท่านทราบไปแล้ว
ส่วนการทำแนวรั้วตามแนวชายแดนด้านเขาพระวิหารตามข้อเสนอของผู้บัญชาการทหารสูงสุดนั้น คงจะต้องมีการนัดเจราจากันอีกครั้งหนึ่ง ถ้าเป็นแนวรั้วในพื้นที่ทับซ้อนก็จะต้องตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมาระหว่างไทยกับกัมพูชา ต้องมาพูดคุยกันว่าจะทำอะไรได้มากน้อยเพียงใดในพื้นที่นี้ เพราะแผนที่ประเทศไทยกับ กัมพูชายึดถือกันคนละฉบับ ก็ต้องคุยกันทั้งสองฝ่าย คาดว่าคงจะมีทางออกที่ดี แต่ต้องเจราจากันก่อน เชื่อว่า ถ้าได้คุยกันน่าจะมีทางออกได้
อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนประชาชนและผู้ชุมนุมว่า ขอให้ระมัดระวังในการเข้าไปใกล้เขตพื้นที่เขาพระวิหาร ให้เชื่อฟังเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ในพื้นที่ และสอบถามก่อนจะดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อทหารจะได้ชี้แจงให้เข้าใจว่าคนไทยสามารถเข้าไปได้มากน้อยเพียงใด เพื่อง่ายต่อการดูแลความปลอดภัย และดูแลการปฏิบัติในพื้นที่ชายแดนที่มีข้อกำหนด และขอให้ทุกคนปฏิบัติตามด้วย
“สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเรื่องการดูแลแนวเขตชายแดนและอธิปไตย ขอยืนยันว่า ทหารของเราพร้อมเสมอที่จะปฏิบัติไม่ให้มีปัญหาต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้น ทุกอย่างมีทางออก แต่จะต้องเริ่มประชุมหารือร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งกัมพูชาและไทย เพื่อหาทางออกร่วมกัน” พล.อ.สุจิตร กล่าวในที่สุด
มีรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา ผู้บังคับการกองร้อยทหารพรานที่ 2301 ได้เหยียบกับระเบิดระหว่างนำกำลังประชิดชายแดนกัมพูชา ทำให้ได้รับบาดเจ็บขาขาด อาการสาหัส