พะเยา - ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ร่องขุย หลังชาวบ้านร้องเรียนไม่หยุด ขณะที่คณะกรรมการฯ เดินหน้าลุยตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
นางสาวเรืองวรรณ บัวนุช ผวจ.พะเยา เปิดเผยว่า หลังจากที่มีชาวบ้านใน อ.เมืองพะเยา และ อ.ดอกคำใต้ ร้องเรียนว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ร่องขุย ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา เป็นเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ ล่าสุดได้สั่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วโดยมี ปลัดจังหวัด เป็นประธาน นายอำเภอเมือง นายอำเภอดอกคำใต้ อัยการ ตร. นายก อบต.ในพื้นที่ เป็นกรรมการ เพื่อเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯ ตามที่ ปชช.ร้องเรียนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้มีการเข้มงวดกับเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะประเด็นการบุกรุกจะต้องตรวจสอบอย่างจริงจัง
ขณะที่ชาวบ้านใน ต.แม่กา ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าที่ผ่านมายังคงมีการฝ่าฝืนบุกรุกป่าอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากการที่นายทุนยังคงนำรถบรรทุกที่บรรทุก และรถแบ็กโฮหลายคัน ขับผ่านบริเวณสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ผ่านเข้าไปยังป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ร่องขุย เชื่อว่าน่าจะเข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่าดังกล่าว แต่ล่าสุดหลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้สั่งการให้นายอำเภอเมือง และนายอำเภอดอกคำใต้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ปิดกั้นบริเวณเส้นทางดังกล่าวแล้ว เพื่อไม่ให้กลุ่มนายทุนลักลอบรุกป่าได้อีก
นายบันลือศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ปลัดจังหวัดพะเยา ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีกลุ่มนายทุกบุกรุป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ร่องขุย กล่าวว่า เบื้องต้นคงจะต้องตรวจสอบว่าการเข้าครอบครองที่ของกลุ่มบุคคลทั้ง 17 ราย ที่ชาวบ้านร้องเรียนว่ามีตัวตนจริงหรือไม่
อีกทั้งเมื่อมีมติคณะรัฐมนตรีให้กรมป่าไม้ ระงับการต่อใบอนุญาตของนายสมหมาย มะโนวงศ์ ที่ได้สัมปทานเข้าทำสวนป่า หลัง พ.ศ.2541 แล้วทำไมถึงมีการอนุญาตให้ผู้ครอบครอง ถึง 17 ราย เข้าไปทำประโยชน์ต่อได้ เรื่องนี้จะต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไปทั้งนี้หลังจากรับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีกลุ่มนายทุกบุกรุป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ร่องขุยแล้ว ตนพร้อมด้วยคณะกรรมการก็จะได้เร่งดำเนินการตรวจสอบฯ คาดว่าน่าจะทราบผลภายในเร็วๆ นี้
นางสาวเรืองวรรณ บัวนุช ผวจ.พะเยา เปิดเผยว่า หลังจากที่มีชาวบ้านใน อ.เมืองพะเยา และ อ.ดอกคำใต้ ร้องเรียนว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ร่องขุย ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา เป็นเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ ล่าสุดได้สั่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วโดยมี ปลัดจังหวัด เป็นประธาน นายอำเภอเมือง นายอำเภอดอกคำใต้ อัยการ ตร. นายก อบต.ในพื้นที่ เป็นกรรมการ เพื่อเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯ ตามที่ ปชช.ร้องเรียนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้มีการเข้มงวดกับเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะประเด็นการบุกรุกจะต้องตรวจสอบอย่างจริงจัง
ขณะที่ชาวบ้านใน ต.แม่กา ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าที่ผ่านมายังคงมีการฝ่าฝืนบุกรุกป่าอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากการที่นายทุนยังคงนำรถบรรทุกที่บรรทุก และรถแบ็กโฮหลายคัน ขับผ่านบริเวณสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ผ่านเข้าไปยังป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ร่องขุย เชื่อว่าน่าจะเข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่าดังกล่าว แต่ล่าสุดหลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้สั่งการให้นายอำเภอเมือง และนายอำเภอดอกคำใต้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ปิดกั้นบริเวณเส้นทางดังกล่าวแล้ว เพื่อไม่ให้กลุ่มนายทุนลักลอบรุกป่าได้อีก
นายบันลือศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ปลัดจังหวัดพะเยา ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีกลุ่มนายทุกบุกรุป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ร่องขุย กล่าวว่า เบื้องต้นคงจะต้องตรวจสอบว่าการเข้าครอบครองที่ของกลุ่มบุคคลทั้ง 17 ราย ที่ชาวบ้านร้องเรียนว่ามีตัวตนจริงหรือไม่
อีกทั้งเมื่อมีมติคณะรัฐมนตรีให้กรมป่าไม้ ระงับการต่อใบอนุญาตของนายสมหมาย มะโนวงศ์ ที่ได้สัมปทานเข้าทำสวนป่า หลัง พ.ศ.2541 แล้วทำไมถึงมีการอนุญาตให้ผู้ครอบครอง ถึง 17 ราย เข้าไปทำประโยชน์ต่อได้ เรื่องนี้จะต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไปทั้งนี้หลังจากรับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีกลุ่มนายทุกบุกรุป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ร่องขุยแล้ว ตนพร้อมด้วยคณะกรรมการก็จะได้เร่งดำเนินการตรวจสอบฯ คาดว่าน่าจะทราบผลภายในเร็วๆ นี้