ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ชาวโคราชร่วมทำพิธีบวงสรวงอนุสาวรีย์ย่าโม และพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 ก่อนให้ช่างลงมือบูรณะซ่อมแซมครั้งใหญ่ คาดใช้เวลาไม่เกิน 1-2 สัปดาห์แล้วเสร็จ เผยใช้ช่างสิบหมู่ 11 คนบูรณะองค์ย่าโมใน 5 จุดหลักที่ชำรุด ใช้งบประมาณกว่า 3 แสนบาท ยันช่วงซ่อมแซมเปิดให้ปชช.สักการะได้ตามเดิม
วันนี้ ( 2ก.ค.) เมื่อเวลา 14.49 น. ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยเหล่าข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมทำพิธีบวงสรวงบูรณะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หลังเกิดการชำรุดเนื่องจากสร้างมานานถึง 75 ปี และการดูแลรักษาไม่ถูกต้อง
นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า การบูรณะซ่อมแซมอนุสาวรีย์ย่าโม จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ( 3 ก.ค.) เป็นต้นไป คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ก็จะแล้วเสร็จ โดยมีเจ้าหน้าที่จากกลุ่มงานเทคโนโลยีการหล่อ กลุ่มประติมากรรมสำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากรจำนวน 11 คน ทำการบูรณะซ่อมแซม โดยจะไม่เคลื่อนย้ายองค์ย่าโมไปจากจุดเดิมแต่อย่างใด
แนวทางการบูรณะรูปหล่อโลหะองค์ย่าโมนั้น ทางช่างสิบหมู่ จะทำการซ่อมแซมทั้งหมด 5 จุด คือ 1 เชื่อมบริเวณส่วนบนของศีรษะที่ช่างหล่อรุ่นครูได้เปิดไว้ให้แข็งแรง, 2. ทำก้านตุ้มหูที่หักหายไปให้สมบูรณ์เหมือนเดิม, 3. ซ่อมตกแต่งผิวโลหะที่องค์และเครื่องประกอบด้วยวิธีการอุดเม็ดไข่ปลาหรือเชื่อม, 4. บริเวณฐานเท้า ช่างจะได้เชื่อมส่วนที่แตกร้าวหรือทรุดตัวให้เต็มสมบูรณ์ และ จุดที่ 5. เมื่อซ่อมเสร็จสมบูรณ์ ช่างจะล้างทำความสะอาดและรมสีผิวโลหะซ่อมแซมให้สวยงามตามเดิม โดยในช่วงระหว่างซ่อมแซมจะยังคงเปิดให้ประชาชนกราบไหว้สักการะได้ตามปกติ
นายสุธี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ช่างสิบหมู่ยังจะได้ทำการบูรณะซ่อมแซมพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ (รัชกาลที่ 5) ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ด้วย พร้อมกับล้างทำความสะอาดพระบรมรูป โดยจะใช้น้ำล้างทำความสะอาดพระบรมรูปให้คราบสกปรกหลุดออก จากนั้นจะใช้ทรายละเอียดหรือแปรงขนอ่อนขัดทำความสะอาดพระบรมรูปจนทั่ว ปล่อยให้แห้ง ก่อนผสมน้ำยารมสีผิวทา สลับกัน โดยใช้น้ำยาเขียวและน้ำยาแดงปล่อยทิ้งไว้แห้งหลังรมดำน้ำยาเสร็จ ใช้แปรงขนอ่อนขัดเพื่อให้เงางามและให้เกิดความสมบูรณ์ ในส่วนที่เกิดคราบสนิมเขียวจะใช้น้ำยาเคลือบเงาหรือน้ำยาเคลือบสนิมเขียวไม่ให้เกิดไปมากกว่าเดิม และต้องมีการเชื่อมติดพู่หูบริเวณกระบี่ และปรับผิวโลหะให้เรียบร้อย
นายสุธี กล่าวว่า งบประมาณในการบูรณะซ่อมแซม อนุสาวรีย์ทั้ง 2 แห่ง และค่าใช้จ่ายในการอบรมให้ความรู้ในการดูแลรักษาอนุสาวรีย์ซึ่งเจ้าหน้าที่จากช่างสิบหมู่จะมาอบรมให้รวม 311,630 บาท ซึ่งทางเทศบาลนครนครราชสีมาได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวมาให้กับทางจังหวัดเรียบร้อยแล้ว และยังมีเงินบริจาคของประชาชนชาวโคราชอีกกว่า 200,000 บาท ซึ่งคณะกรรมการจะพิจารณาในการใช้จ่ายต่อไป เช่น อาจจะมีการปรับภูมิทัศน์รอบ ๆ อนุสาวรีย์คุณย่าโมใหม่เป็นต้น
สำหรับการดูแลรักษาหลังจากการบูรณะซ่อมแซมแล้วเสร็จ ในส่วนของอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อยู่ในความรับผิดชอบของทางเทศบาลนครนครราชสีมา ส่วนพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 เป็นความดูแลของสำนักงานจังหวัดฯ แต่ทั้งนี้ทางจังหวัดจะช่วยดูแลอีกทางหนึ่งด้วย นายสุธี กล่าว
อนึ่งอนุสาวรีย์ท้าวสรุนารีย์องค์ปัจจุบันสร้างขึ้นโดย พระยากำธร พายัพทิศ (ดิส อินทรโสฬส) ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา , นายพันเอกพระเริงรุก ปัจจามิตร (ทอง รังสงบ) ผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 5 พร้อมด้วยข้าราชการ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้พร้อมใจกันสร้าง โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ดำเนินการออกแบบปั้นและควบคุมการหล่อ โดยใช้โลหะสำริด ขนาดสูง 1.85 เมตร หนัก 325 กิโลกรัม ประดิษฐานไว้ ณ ประตูชุมพล ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2477
ต่อมาปี พ.ศ. 2510 ฐานอนุสาวรีย์ชำรุดข้าราชการและประชาชนชาว จ.นครราชสีมา ได้ร่วมใจกันสร้างฐานแท่นขึ้นใหม่ ณ ที่เดิม สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2510 ซึ่งอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีแห่งนี้ ประดิษฐานมาเป็นเวลา 75 ปีแล้ว