เชียงราย – อปท.เมืองพ่อขุนฯ เร่งแก้ปัญหาการแสวงหาประโยชน์การสวมสถานะบุคคลพื้นที่สูง-ประชาสัมพันธ์ ให้ชาวบ้านสอดส่องคนแปลกหน้าเข้ามาอาศัยอยู่หรือไม่ หากมีให้รีแจ้ง พร้อมจับตาหมู่บ้านริมชายแดน ไทย-พม่า หลังมีคาราวานยาบ้าปะทะกับทหารตาย 2 ศพ
นายณัฐกร ใจรังษี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เปิดเผยว่า หลังจากมีข่าวกลุ่มบุคคลสวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากการสำรวจสถานะบุคคลที่ราบสูง เพื่อออกเอกสารสิทธิกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ ซึ่งพื้นที่ อ.แม่จัน เป็นหนึ่งในพื้นที่ติดเขตชายแดนไทย-พม่า ในอดีตเคยมีปัญหาเรื่องดังกล่าวอยู่มาก สาเหตุเพราะมีผู้นำท้องถิ่นเข้าไปร่วมในขบวนการ ทำให้ปัญหาเรื่องชนกลุ่มน้อยอพยพ เข้ามาสวมบัตรมีมากขึ้น
ขณะนี้ อบต.พยายามเข้าไปมีส่วนร่วมกับทางฝ่ายปกครอง อ.แม่จัน ในการสอดส่องหาความเคลื่อนไหว ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์พี่น้องชาวบ้าน ให้เฝ้าติดตามดูว่าในหมู่บ้านของตัวเอง มีคนแปลกหน้าเข้ามาอาศัยอยู่หรือไม่ หากมีให้รีบแจ้งมาที่ อบต.จะได้นำข้อมูลและเบาะแสทั้งหมด นำเสนอรายงานต่อนายอำเภอแม่จัน รับทราบโดยละเอียด
นายก อบต.ป่าตึง กล่าวว่า เครือข่ายขบวนการสวมบัตร แม้ว่าจะถูกติดตามจับกุม หรือผู้นำที่เคยกระทำ จะได้วางมือไปแล้วก็ตาม แต่ทั้งนี้ เครือข่ายก็ยังไม่หมดสิ้นไป ปัญหาจุดนี้ยังคงมีอยู่ ตนเคยเป็นกำนัน ต.ป่าตึง มาก่อน ย่อมเข้าใจในสภาพปัญหาของท้องถิ่นแห่งนี้ดี ต.ป่าตึง เป็นพื้นที่ละเอียดอ่อนอยู่ขนาบชายแดน การลักลอบอพยพของกลุ่มคนต่างด้าว ทั้งอพยพเข้ามาเอง และได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มบุคคล จึงมีปรากฏอยู่ และลามหนักเข้าไปถึงเรื่องการแพร่ระบาดของยาเสพติด ที่มากับชนกลุ่มน้อยอีกด้วย
เมื่อเร็วๆ นี้ ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ได้ออกตรวจสอบตามริมชายแดนในหมู่บ้านสันติสุข ต.ป่าตึง หมู่บ้านอิทธิพลเรื่องยาเสพติด และชนกลุ่มน้อย เข้ามาแอบแฝงทำการค้ายาเสพติด จนเกิดการปะทะ ทำให้คนร้าย ซึ่งเป็นกลุ่มทหารว้าแดง ถูกยิงเสียชีวิตไป 2 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวนมาก ก็สืบเนื่องจากการเข้ามาลักลอบตั้งเขตอิทธิพลในหมู่บ้านชายแดน ของชนกลุ่มน้อย ที่มีคนในพื้นที่ร่วมมือด้วย ดังนั้น การปราบปรามให้ได้ประสิทธิภาพ ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้านการหาข่าวเชิงลึกระดับรากหญ้า ช่วยฝ่ายปฏิบัติการอีกทางหนึ่งด้วย
นายณัฐกร ใจรังษี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย เปิดเผยว่า หลังจากมีข่าวกลุ่มบุคคลสวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากการสำรวจสถานะบุคคลที่ราบสูง เพื่อออกเอกสารสิทธิกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ ซึ่งพื้นที่ อ.แม่จัน เป็นหนึ่งในพื้นที่ติดเขตชายแดนไทย-พม่า ในอดีตเคยมีปัญหาเรื่องดังกล่าวอยู่มาก สาเหตุเพราะมีผู้นำท้องถิ่นเข้าไปร่วมในขบวนการ ทำให้ปัญหาเรื่องชนกลุ่มน้อยอพยพ เข้ามาสวมบัตรมีมากขึ้น
ขณะนี้ อบต.พยายามเข้าไปมีส่วนร่วมกับทางฝ่ายปกครอง อ.แม่จัน ในการสอดส่องหาความเคลื่อนไหว ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์พี่น้องชาวบ้าน ให้เฝ้าติดตามดูว่าในหมู่บ้านของตัวเอง มีคนแปลกหน้าเข้ามาอาศัยอยู่หรือไม่ หากมีให้รีบแจ้งมาที่ อบต.จะได้นำข้อมูลและเบาะแสทั้งหมด นำเสนอรายงานต่อนายอำเภอแม่จัน รับทราบโดยละเอียด
นายก อบต.ป่าตึง กล่าวว่า เครือข่ายขบวนการสวมบัตร แม้ว่าจะถูกติดตามจับกุม หรือผู้นำที่เคยกระทำ จะได้วางมือไปแล้วก็ตาม แต่ทั้งนี้ เครือข่ายก็ยังไม่หมดสิ้นไป ปัญหาจุดนี้ยังคงมีอยู่ ตนเคยเป็นกำนัน ต.ป่าตึง มาก่อน ย่อมเข้าใจในสภาพปัญหาของท้องถิ่นแห่งนี้ดี ต.ป่าตึง เป็นพื้นที่ละเอียดอ่อนอยู่ขนาบชายแดน การลักลอบอพยพของกลุ่มคนต่างด้าว ทั้งอพยพเข้ามาเอง และได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มบุคคล จึงมีปรากฏอยู่ และลามหนักเข้าไปถึงเรื่องการแพร่ระบาดของยาเสพติด ที่มากับชนกลุ่มน้อยอีกด้วย
เมื่อเร็วๆ นี้ ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ได้ออกตรวจสอบตามริมชายแดนในหมู่บ้านสันติสุข ต.ป่าตึง หมู่บ้านอิทธิพลเรื่องยาเสพติด และชนกลุ่มน้อย เข้ามาแอบแฝงทำการค้ายาเสพติด จนเกิดการปะทะ ทำให้คนร้าย ซึ่งเป็นกลุ่มทหารว้าแดง ถูกยิงเสียชีวิตไป 2 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวนมาก ก็สืบเนื่องจากการเข้ามาลักลอบตั้งเขตอิทธิพลในหมู่บ้านชายแดน ของชนกลุ่มน้อย ที่มีคนในพื้นที่ร่วมมือด้วย ดังนั้น การปราบปรามให้ได้ประสิทธิภาพ ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้านการหาข่าวเชิงลึกระดับรากหญ้า ช่วยฝ่ายปฏิบัติการอีกทางหนึ่งด้วย
