ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาเรียกประชุมผู้ประกอบการร่มเตียง 3 ชายหาดหลัก หาข้อยุติแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบของจังหวัดชลบุรี พร้อมรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นสมาพันธ์ผู้ประกอบการร่มเตียงพัทยา
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมศาลาว่าการเมืองพัทยา นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายอำนวย สมพงษ์ธรรม สมาชิกสภาเมืองพัทยา ในฐานะประธานชมรมร่มเตียงชายหาดจอมเทียน เป็นประธานการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาดพัทยา ชายหาดจอมเทียน และชุมชนบ้านเกาะล้านกว่า 400 คน ทั้งนี้ เพื่อชี้แจงแนวนโยบายการจัดระเบียบที่ทำกินของจังหวัดชลบุรี ตลอดจนข้อเสนอแนะและแนวทางการจัดระเบียบที่ทำกินใหม่ ที่เมืองพัทยาได้นำเสนอต่อจังหวัดชลบุรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว
นายรณกิจ กล่าวว่า ที่ผ่านมาจากการที่นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้นัดประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดกรอบแนวทางการจัดระเบียบร่มเตียงชายหาดพัทยาครั้งล่าสุดนั้น ได้มีบทสรุปที่จะเปิดให้มีพื้นที่ทำกินเพียง 36% ของพื้นที่โดยรวมตลอดแนวชายหาด โดยให้เว้นเป็นพื้นที่สันทนาการถึง 64%
ทั้งนี้ ได้กำหนดให้ผู้ประกอบมีพื้นที่ทำกินคนละ 1 ล็อก หรือ 7X7 เมตร ขณะที่ผู้ประกอบการที่มีสิทธิ์ครอบครองล็อกแต่เดิมตั้งแต่ 4 ล็อกขึ้นไปจนถึง 9 ล็อก ให้ปรับลดพื้นที่ทำกินเหลือคนละ 2 ล็อก และจะมีการลงพื้นที่จัดระเบียบอย่างเป็นรูปธรรมในวันที่ 1
กรกฎาคมที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวนโยบายดังกล่าวถือว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการพอสมควร โดยเฉพาะส่วนของผู้ที่มีสิทธิ์ครอบครองตั้งแต่ 4 ล็อกขึ้นไป ด้วยเหตุนี้นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา จึงได้เดินทางเข้าพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นการส่วนตัวเพื่อขอความอนุเคราะห์ และอะลุ้มอล่วยจากมาตรการดังกล่าว ซึ่งมีบทสรุปที่จะให้พื้นที่ทำกินสำหรับผู้ประกอบการในสัดส่วน 50% ของพื้นที่ตลอดแนวชายหาดทั้งหมด
โดยในส่วนของผู้ประกอบการที่มีพื้นที่ทำกิน 1 ล็อกให้คงไว้ตามเดิม ขณะที่ผู้ที่มีสิทธิ์ครอบครองตั้งแต่ 3 ล็อกขึ้นไป ให้มาทำการเฉลี่ยแบ่งสัดส่วนความเหมาะสม และปรับร่นพื้นที่ให้เหลือสัดส่วนพื้นที่สันทนาการของชายหาดในสัดส่วน 50% ตามนโยบายของจังหวัด ซึ่งมาตรการนี้จะทำให้ผู้ประกอบการที่มีสิทธิ์ทำกินเกินกว่า 3 ล็อกขึ้นไป ไม่จำเป็นต้องตัดล็อกจนเหลือ 2 ล็อกตามที่จังหวัดกำหนด แต่อาจถูกปรับลดพื้นที่ไปบ้าง เพื่อเปิดพื้นที่สาธารณะให้เพิ่มขึ้น ซึ่งก็ถือว่าทางจังหวัดให้ความเห็นใจและอนุเคราะห์มาแล้ว
ทั้งนี้ ตามนโยบายดังกล่าวผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็เห็นชอบด้วย ดังนั้น เมืองพัทยาจะได้ทำการวางผังทำกินให้ใหม่เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ผู้ประกอบการ และตรงตามนโยบายของจังหวัด จากนั้นจะได้นำเรื่องหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดอีกครั้งในเร็ววันนี้
ทางด้าน นายอำนวย สมพงษ์ธรรม ประธานชมรมร่มเตียง กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวผู้ประกอบการเองก็ควรให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างจริงจัง เพื่อประโยชน์แก่บ้านเมือง และเพื่อให้การควบคุม และกำหนดแนวทางการจัดระเบียบเป็นไปด้วยความชัดเจน จึงได้มีการนำเสนอให้มีการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการทุกหาดขึ้น
โดยทำการจัดตั้งเป็นสมาพันธ์ผู้ประกอบการขึ้น เพื่อเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการในการรับทราบแนวนโยบายของภาครัฐ พร้อมจัดให้มีการเลือกตั้งประธานสมาพันธ์อย่างชัดเจน ซึ่งผลสรุปในที่ประชุมเห็นชอบให้นายปัณธวัช พิมพ์สกุล ขึ้นเป็นประธานสมาพันธ์ และจะได้มีการกำหนดระเบียบข้อบังคับที่ชัดเจน เพื่อดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมศาลาว่าการเมืองพัทยา นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายอำนวย สมพงษ์ธรรม สมาชิกสภาเมืองพัทยา ในฐานะประธานชมรมร่มเตียงชายหาดจอมเทียน เป็นประธานการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการร่มเตียงชายหาดพัทยา ชายหาดจอมเทียน และชุมชนบ้านเกาะล้านกว่า 400 คน ทั้งนี้ เพื่อชี้แจงแนวนโยบายการจัดระเบียบที่ทำกินของจังหวัดชลบุรี ตลอดจนข้อเสนอแนะและแนวทางการจัดระเบียบที่ทำกินใหม่ ที่เมืองพัทยาได้นำเสนอต่อจังหวัดชลบุรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว
นายรณกิจ กล่าวว่า ที่ผ่านมาจากการที่นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้นัดประชุมผู้เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดกรอบแนวทางการจัดระเบียบร่มเตียงชายหาดพัทยาครั้งล่าสุดนั้น ได้มีบทสรุปที่จะเปิดให้มีพื้นที่ทำกินเพียง 36% ของพื้นที่โดยรวมตลอดแนวชายหาด โดยให้เว้นเป็นพื้นที่สันทนาการถึง 64%
ทั้งนี้ ได้กำหนดให้ผู้ประกอบมีพื้นที่ทำกินคนละ 1 ล็อก หรือ 7X7 เมตร ขณะที่ผู้ประกอบการที่มีสิทธิ์ครอบครองล็อกแต่เดิมตั้งแต่ 4 ล็อกขึ้นไปจนถึง 9 ล็อก ให้ปรับลดพื้นที่ทำกินเหลือคนละ 2 ล็อก และจะมีการลงพื้นที่จัดระเบียบอย่างเป็นรูปธรรมในวันที่ 1
กรกฎาคมที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวนโยบายดังกล่าวถือว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการพอสมควร โดยเฉพาะส่วนของผู้ที่มีสิทธิ์ครอบครองตั้งแต่ 4 ล็อกขึ้นไป ด้วยเหตุนี้นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา จึงได้เดินทางเข้าพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นการส่วนตัวเพื่อขอความอนุเคราะห์ และอะลุ้มอล่วยจากมาตรการดังกล่าว ซึ่งมีบทสรุปที่จะให้พื้นที่ทำกินสำหรับผู้ประกอบการในสัดส่วน 50% ของพื้นที่ตลอดแนวชายหาดทั้งหมด
โดยในส่วนของผู้ประกอบการที่มีพื้นที่ทำกิน 1 ล็อกให้คงไว้ตามเดิม ขณะที่ผู้ที่มีสิทธิ์ครอบครองตั้งแต่ 3 ล็อกขึ้นไป ให้มาทำการเฉลี่ยแบ่งสัดส่วนความเหมาะสม และปรับร่นพื้นที่ให้เหลือสัดส่วนพื้นที่สันทนาการของชายหาดในสัดส่วน 50% ตามนโยบายของจังหวัด ซึ่งมาตรการนี้จะทำให้ผู้ประกอบการที่มีสิทธิ์ทำกินเกินกว่า 3 ล็อกขึ้นไป ไม่จำเป็นต้องตัดล็อกจนเหลือ 2 ล็อกตามที่จังหวัดกำหนด แต่อาจถูกปรับลดพื้นที่ไปบ้าง เพื่อเปิดพื้นที่สาธารณะให้เพิ่มขึ้น ซึ่งก็ถือว่าทางจังหวัดให้ความเห็นใจและอนุเคราะห์มาแล้ว
ทั้งนี้ ตามนโยบายดังกล่าวผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็เห็นชอบด้วย ดังนั้น เมืองพัทยาจะได้ทำการวางผังทำกินให้ใหม่เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ผู้ประกอบการ และตรงตามนโยบายของจังหวัด จากนั้นจะได้นำเรื่องหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดอีกครั้งในเร็ววันนี้
ทางด้าน นายอำนวย สมพงษ์ธรรม ประธานชมรมร่มเตียง กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม นโยบายดังกล่าวผู้ประกอบการเองก็ควรให้ความร่วมมือกับภาครัฐอย่างจริงจัง เพื่อประโยชน์แก่บ้านเมือง และเพื่อให้การควบคุม และกำหนดแนวทางการจัดระเบียบเป็นไปด้วยความชัดเจน จึงได้มีการนำเสนอให้มีการรวมกลุ่มของผู้ประกอบการทุกหาดขึ้น
โดยทำการจัดตั้งเป็นสมาพันธ์ผู้ประกอบการขึ้น เพื่อเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการในการรับทราบแนวนโยบายของภาครัฐ พร้อมจัดให้มีการเลือกตั้งประธานสมาพันธ์อย่างชัดเจน ซึ่งผลสรุปในที่ประชุมเห็นชอบให้นายปัณธวัช พิมพ์สกุล ขึ้นเป็นประธานสมาพันธ์ และจะได้มีการกำหนดระเบียบข้อบังคับที่ชัดเจน เพื่อดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
