อุบลราชธานี - โฆษกทัพบกพร้อมผู้เชี่ยวชาญแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รุดแจงสื่ออีสานสถานการณ์ภาคใต้ดีขึ้น เพราะรัฐเข้าถึงมวลชนแยกผู้ก่อการร้ายกับชาวบ้านได้ชัดเจน ทำให้การปราบปรามได้รับความร่วมมือจากคนในพื้นที่ ส่วนการเยียวผู้ได้รับผลกระทบก็ทำได้ตรงเป้า คาดอนาคตสามารถอยู่กันได้อย่างสงบสุข
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่โรงแรมลายทอง นายราชันย์ ฮูเซ็น ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ ในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภาคใต้ และ พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก ได้จัดประชุมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ภาคใต้ แก่สื่อมวลชนทั้งหนังสือพิมพ์ วิทยุ และโทรทัศน์ใน 9 จังหวัดอีสานตอนล่าง เช่น จ.สุรินทร์ ศรีสะเกษ ยโสธร ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี กว่า 200 คน
สำหรับปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ ปัจจุบันอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายบ้านเมือง และยืนยันว่าการแบ่งแยก 3 จังหวัดชายภาคใต้ รวมทั้งบางส่วนของจังหวัดสงขลาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน
พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การดำเนินงานของกองทัพบกต่อปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการแยกมวลชนให้เห็นชัดเจน ก่อนเข้าดำเนินการกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ เพื่อไม่ให้การดำเนินงานของกองทัพบกส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพราะในอดีตกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอาศัยเข้าไปแฝงตัวในกลุ่มชาวบ้าน และก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เมื่อกองทัพสามารถแยกมวลชนออกมาได้อย่างชัดเจน
จึงได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้ความรุนแรงในพื้นที่เริ่มลดลง ถือว่ากองทัพสามารถเข้าถึงมวลชนและจะร่วมมือกับมวลชนแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ลดน้อยลงอีก
นอกจากการคัดแยกมวลชนระหว่างประชาชนกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ออกจากกัน กองทัพและรัฐบาลยังให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรม โดยช่วงที่ผ่านมาได้มีการจ่ายเงินเป็นสินไหมทดแทนแก่ประชาชน และข้าราชการผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากความรุนแรงเป็นเงินกว่า 295 ล้านบาท และมอบเงินช่วยเหลือกรณีอาคารบ้านเรือน พืชสวน หรือการประกอบอาชีพได้รับผลกระทบจากความรุนแรงคิดเป็นเงินอีกกว่า 590 บาท
โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่า สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีผลต่อความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งความปลอดภัยของคนในชาติ การให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบ และการทำการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนไทยทั่วทั้งประเทศ
อันจะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและความสมานฉันท์ของคนในชาติอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต จึงขอให้ประชาชนทราบว่าขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายเป็นลำดับ และจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติถ้าคนทั้งชาติมีความเข้าใจต่อกัน