อุดรธานี - นักดนตรีหนุ่มอุดรฯ หลงผิดเข้าสู่วงจรยาเสพติด ต้องใช้ชีวิตอยู่หลังกำแพงคุก แต่ด้วยเลือดศิลปินเพียรแต่งบทเพลงเล่าเรื่องราวชีวิตตนเองได้ 100 กว่าเพลง ผบ.เรือนดึงเข้าโครงการราชทัณฑ์เชิงสมานฉันท์
นายวุฒิชัย เจนวิริยะกุล ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ทางเรือนจำกลางอุดรธานี มีผู้ต้องขังชายในคดียาเสพติดซึ่งมีความสามารถพิเศษในการเล่นดนตรีและสามารถแต่งบทเพลงได้กว่า 100 เพลง ตนจึงมีแนวคิดที่จะนำนักโทษเข้าไปในโครงการราชทัณฑ์เชิงสมานฉันท์ ออกช่วยเหลือสังคม โดยคาดว่าจะช่วยเป็นอุทาหรณ์สอนเด็กและเยาวชนไม่ให้เข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดได้
ผู้บังคับการเรือนจำการอุดรธานี ได้นำผู้ต้องขัง คือ นายพงษ์ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นราษฎร ต.นางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี พบกับผู้สื่อข่าว โดยนายพงษ์ได้นำกีตาร์โปร่งและสมุดแต่งเพลงจำนวน 2 เล่ม ซึ่งภายในมีเนื้อเพลงที่แต่งเสร็จแล้ว 100 กว่าเพลง แล้วได้เล่นเพลงโชว์ให้ฟัง เช่น เพลงเมียอ่ายปะย้อนเพราะติดคุก, อยากให้พ่อพักเหนื่อย และน้ำตาแม่บนห้องเยี่ยม
นายพงษ์ เล่าว่า ตนมีพี่น้อง 7 คน ชาย 5 คน หญิง 2 คน ตนเป็นลูกคนที่ 6 พ่อแม่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งพ่อมีอาชีพเป็นหมอแคนในวงหมอลำแต่ก็ได้เลิกเล่นไปนานแล้ว โดยในวัยเด็กพ่อของตนจะเอาแคนมาเป่าให้ฟังเป็นประจำ ทำให้ตนซึมซับและเกิดความรักในเสียงดนตรี จึงได้หัดเล่นดนตรีจนกระทั้งจบ ป.6 หลังเรียนจบก็ไปทำงานรับร้องเพลงตามงานบุญต่างๆ บ้าง ในร้านอาหารในอำเภอน้ำโสมบ้าง
จากนั้น ได้มีนักดนตรีรุ่นพี่ชักชวนให้เข้ามาร้องเพลงตามร้านอาหารในตัวเมืองอุดรธานี จนกระทั้งมีภรรยาแล้วมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 2 ขวบ แต่แล้วตนก็ได้เลิกกับภรรยาไป การที่ตนได้หลงผิดเข้าไปในวงจรยาเสพติด เพราะมีเพื่อนชักชวนให้เสพยาบ้า ซึ่งเงินที่หามาได้ในแต่ละวันต้องหมดไปเพราะซื้อยาบ้ามาเสพวันละ 1-2 เม็ด จนกระทั้งเริ่มติดมากขึ้นจึงหันเข้าไปซื้อยาบ้าที่ฝั่งลาวจนมาถูกตำรวจจับกุมได้ที่ จ.หนองคาย
นายพงษ์ กล่าวอีกว่า พอมาใช้ชีวิตอยู่ที่หลังกำแพงในเรือนจำอุดรธานี แม่ของตนได้เดินทางมาเยี่ยมแล้วเห็นแม่ร้องไห้ก็ห้ามไม่ให้แม่ร้อง แต่พอแม่กลับไปตนกลับมานั่งร้องไห้และเกิดแรงบรรดาลใจแต่งเพลงขึ้นมา โดยเพลงแรกที่แต่ง คือ เพลงน้ำตาแม่บนห้องเยี่ยม หลังจากนั้นทุกคืนตนก็ได้แต่งเพลงขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมีถึง 100 กว่า เพลง
ด้าน นายวุฒิชัย ได้กล่าวว่า ผู้ต้องหาส่วนใหญ่เข้ามาในเรือนจำด้วยความพลั้งพลาด โดยจะเป็นผู้เสพส่วนใหญ่ และผู้ต้องขังรายนี้ต้องการซื้อยาเสพติดในราคาที่ถูกเลยข้ามไปซื้อที่ฝั่งลาวถูกจับเมื่อวันที่ 9 ต.ค.51 ที่ผ่านมา ศาลตัดสินจำคุกเป็นเวลา 25ปี
ดังนั้น ทางเรือนจำจึงได้จัดทำโครงการราชทัณฑ์เชิงสมานฉันท์ขึ้น เพื่อให้ผู้ต้องขังได้ออกไปทำประโยชน์ให้กับสังคม ออกไปเตือนสติกลุ่มเสี่ยง อาทิ นักเรียนนักศึกษาที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ให้ได้รู้และระวังเรื่องยาเสพติด
นายวุฒิชัย กล่าวอีกว่าจังหวัดอุดรธานี ได้กำหนดจัดงานวันต่อต้านยาเสพติดโลก ในวันที่ 26 มิถุนายน 2551 ณ ศาลาอเนกประสงค์ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ภายใต้แนวคิดทำความดีตามคำพ่อการเชื่อมโยงข้อมูลด้านยาเสพติดกับเรือนจำกลางอุดรธานี โดยที่ประชุมได้เสนอให้มีการแต่งตั้งชุดปฏิบัติการร่วม เพื่อดำเนินงานตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ให้ทุกฝ่ายร่วมมือในรูปศูนย์ปฏิบัติการต่อสู่เพื่อเอาชนะยาเสพติด เพื่อให้ได้ข้อมูลในการนำไปดำเนินการป้องกัน ปราบปราม และบำบัดรักษา ที่เห็นผลเป็นรูปธรรม
โดยในครั้งนี้ทางเรือนจำกลางก็จะได้นำผู้ต้องขังไปร่วมร้องเพลงและเล่าเรื่องของตนเองและเตือนสติในการผิดพลาดของตนเองที่เดินหลงทางผิดในครั้งนี้อีกด้วย