สกลนคร - เจ้าของปั๊มน้ำมันโอด ราคาน้ำมันพุ่งแต่ส่วนต่างผลกำไรต่อหน่วยเท่าเดิม หลายรายต้องดิ้นปรับตัวหารายได้จากธุรกิจอื่นเสริมเพื่อให้อยู่รอด
จากสถานการณ์ปัจจุบัน ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันที่ผ่านมาก็ขยับขึ้นอีกลิตรละ 80 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันในปัจจุบันทะลุถึง 40 บาทแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการน้ำมันต้องแบกรับภาระของต้นที่หนักเพิ่มขั้นอีก จนผู้ประกอบการบางรายถึงกับเปลี่ยนอาชีพ เนื่องจากทนแบกรับภาระค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพที่หนักเกินไปไม่ไหว
เช่นเดียวกับที่จังหวัดสกลนคร นายไชยวัฒน์ นามประกาย ผู้ประกอบการปั้มน้ำมันรายใหญ่ของจังหวัดสกลนครกล่าวว่า ผลกระทบที่เห็นชัดเจนในขณะนี้ก็คือ ด้านเงินทุนหมุนเวียนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในอดีตเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ราคาน้ำมันอยู่ที่ลิตรละ 10-12 บาท กำไรต่อหน่วยอยู่ที่ 50-60 สตางค์ต่อลิตร แต่ในปัจจุบันนี้ราคาน้ำมันพุ่งถึง 40 บาทต่อลิตร แต่กำไรต่อหน่วยก็ยังคงเท่าเดิมคือ 50-60 สตางค์ต่อลิตร
โดยรายได้ดังกล่าวยังไม่ได้หักค่าใช้จ่าย จะเห็นได้ว่าแม้ต้นทุนจะสูงขึ้นมากเท่าไหร่แต่กำไรก็ยังคงเท่าเดิมหรือต่ำกว่าเดิม ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ กำไรอยู่ที่ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม ทางปั๊มน้ำมันก็มีมาตรการรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยการเพิ่มธุรกิจภายในปั้ม ไม่ว่าจะเป็น ร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ หรือแม้แต่บริการล้างอัดฉีดต่างๆ เป็นต้น เพื่อเป็นการดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น และเพื่อการอยู่รอดของทางปั้มน้ำมันเองด้วย
ปัญหาความเดือดร้อนต่างๆเหล่านี้ ผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน จึงอยากขอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือทางด้านผลกำไรด้วย เพราะเมื่อธุรกิจมีต้นทุนที่สูงขึ้น กำไรต่อหน่วยก็ควรจะเพิ่มขึ้นตาม ไม่ใช่ว่ายังคงเท่าเดิมหรือดิ่งต่ำลงเหมือนอย่างที่ผ่านมา