ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.โคราชสกัดจับแก๊งขนยาบ้าได้ผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางกว่า 13,000 เม็ด กระบะ 2 คัน เผย ยัดยาบ้าในลูก “ส้มโอ” ตบตาเจ้าหน้าที่สารภาพได้ค่าจ้างขน 3 หมื่นบาท รับมาจากชาว ส.ป.ป.ลาว ชายแดนด้าน จ.หนองคาย นำไปส่งให้ลูกค้าที่ปลายทาง จ.สระบุรี เผยให้เพื่อนขับกระบะเคลียร์เส้นทาง ถ.มิตรภาพ ล่วงหน้าแต่พลาดถูกตำรวจสกัดจับจึงตัดสินใจผ่าด่านตรวจหลบหนี ตร.ขับไล่ตามรวบได้ในเขต อ.หนองแค จ.สระบุรี
วันนี้ (11 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งลักลอบขนยาเสพติดรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายวีระศักดิ์ หรือ ศักดิ์ ศรีบานเย็น อายุ 33 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี, นายมนตรี หรือซี๊ด กามีฮา อายุ 27 ปี ชาว จ.ปทุมธานี และ นายปรัชญา หรือ ตูน โขวัฒนชัย อายุ 17 ปี ชาว จ.ปทุมธานี พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 13,001 เม็ด, โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ 2 คัน
พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับจ้างขนยาบ้ามาจากชาว ส.ป.ป.ลาว โดยนำเข้ามาทางด้านชายแดน จ.อุบลราชธานี ในราคา 30,000 บาท เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.สระบุรี โดยให้ นายวีระศักดิ์ ขับรถยนต์นำหน้าไปก่อนเพื่อเคลียร์เส้นทาง แต่เมื่อขับมาถึงที่บริเวณทางเลี่ยงเมืองขาเข้านครราชสีมา ถ.มิตรภาพ ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา รถของนายวีระศักดิ์ ถูกเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจสั่งให้หยุดรถและเข้าตรวจค้น พบยาบ้าซุกซ่อนในรถ 1 เม็ด
จากนั้นรถยนต์คันที่ นายมนตรี เป็นคนขับ และมี นายปรัชญา นั่งคู่มา ซึ่งขับตามหลังมาเห็นด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงตัดสินใจขับฝ่าด่านตรวจหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด และสามารถสกัดรถของ นายมนตรี ได้ที่เขต อ.หนองแค จ.สระบุรี พร้อมเข้าตรวจค้นภายในรถยนต์ พบยาบ้า 13,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในผลส้มโอ โดยผ่าเนื้อด้านในส้มโอออกแล้วยัดยาบ้าเข้าไปแทน เพื่ออำพรางการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่สุดท้ายไปไม่รอดถูกจับกุมดำเนินคดีดังกล่าว
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย”