ตราด - หอการค้าจังหวัดตราดแจง ผลการแก้ปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำ ด้านหน่วยประสานงานชายแดนขอให้หอการค้าตราดผลักดันเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อให้ประชาชนได้เดินทางเข้าออกสะดวกขึ้น
นายสุพจน์ เลียดประถม ประธานหอการค้าจังหวัดตราด เผยถึงการแก้ปัญหาราคาผลไม้ ตกต่ำที่ ว่าที่ผ่านมาทางหอการค้าจังหวัดตราด ได้เข้าไปร่วมแก้ไขการนำผลไม้ จ.ตราด ไปเปิดตลาดในประเทศกัมพูชา และการเพิ่มศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวบนถนนสาย 48
โดยที่ผ่านมาจุดรับซื้อผลไม้ที่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2551 จนถึงปัจจุบันสามารถรับซื้อผลไม้ได้กว่า 1,000 ตัน ซึ่งปัจจุบันเหลือผลผลิตเพียง 10% ซึ่งผลไม้เหล่านี้ได้ส่งไปขายในประเทศกัมพูชาเป็นหลัก ขณะเดียวกันก็ได้มีการนำไปจำหน่ายในห้างพารากอน และห้างโซวันนา ปรากฏว่ามีชาวกัมพูชาเข้าคิวซื้อผลไม้จาก จ.ตราด วันละ 1 ตัน นอกจากนี้ หอการค้า จ.ตราด ยังได้เข้าไปรับซื้อผลไม้ใน จ.จันทบุรี ตามที่ผู้ว่าราชการ จ.จันทบุรี ร้องขอมา ซึ่งได้ซื้อไว้วันละ 10 ตัน
นายสุพจน์ กล่าวต่อว่า ในปี 2552 ทางหอการค้าจะจัดตั้งกลุ่มเพื่อพัฒนาคุณภาพผลไม้ให้มีคุณภาพและรับ ซื้อล่วงหน้าแล้วนำส่งไปจำหน่ายในต่างประเทศ ซึ่งจะมีราคาดีโดยจะเริ่มต้นจำนวน 1,000 ตันในปีแรก และค่อยๆ เพิ่มจำนวนเพิ่มขึ้นในปีต่อไป จะทำให้ไม่เกิดปัญหาผลไม้ล้นตลาด และเกษตรกรสามารถกำหนดราคาได้
โดยทางหน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่ จ.ตราด เสนอให้หอการค้า จ.ตราด ได้ผลักดันให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนชั่วคราวที่บ้านหาดเล็ก เพื่อขอให้มีประชาชนชาวไทยสามารถเดินทางเข้าไปยังกัมพูชาได้โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว
ทั้งนี้ ปัจจุบันบ้านหาดเล็กเป็นจุดผ่านแดนถาวร อนุญาตให้เฉพาะสินค้าเท่านั้น หากสามารถดำเนินการได้จะเกิดผลดีต่อการค้าและการท่องเที่ยวระหว่าง 2 จังหวัดมาก ส่วนการขยายเวลาการเปิดด่านจะขอให้มีการขยายไปถึงเวลา 22.00 น.หรือ 24.00 น.ของทุกวัน เพราะจะเกิดผลดีต่อการขนส่งสินค้าระหว่าง 2 ประเทศ
นายสุพจน์ เลียดประถม ประธานหอการค้าจังหวัดตราด เผยถึงการแก้ปัญหาราคาผลไม้ ตกต่ำที่ ว่าที่ผ่านมาทางหอการค้าจังหวัดตราด ได้เข้าไปร่วมแก้ไขการนำผลไม้ จ.ตราด ไปเปิดตลาดในประเทศกัมพูชา และการเพิ่มศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวบนถนนสาย 48
โดยที่ผ่านมาจุดรับซื้อผลไม้ที่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2551 จนถึงปัจจุบันสามารถรับซื้อผลไม้ได้กว่า 1,000 ตัน ซึ่งปัจจุบันเหลือผลผลิตเพียง 10% ซึ่งผลไม้เหล่านี้ได้ส่งไปขายในประเทศกัมพูชาเป็นหลัก ขณะเดียวกันก็ได้มีการนำไปจำหน่ายในห้างพารากอน และห้างโซวันนา ปรากฏว่ามีชาวกัมพูชาเข้าคิวซื้อผลไม้จาก จ.ตราด วันละ 1 ตัน นอกจากนี้ หอการค้า จ.ตราด ยังได้เข้าไปรับซื้อผลไม้ใน จ.จันทบุรี ตามที่ผู้ว่าราชการ จ.จันทบุรี ร้องขอมา ซึ่งได้ซื้อไว้วันละ 10 ตัน
นายสุพจน์ กล่าวต่อว่า ในปี 2552 ทางหอการค้าจะจัดตั้งกลุ่มเพื่อพัฒนาคุณภาพผลไม้ให้มีคุณภาพและรับ ซื้อล่วงหน้าแล้วนำส่งไปจำหน่ายในต่างประเทศ ซึ่งจะมีราคาดีโดยจะเริ่มต้นจำนวน 1,000 ตันในปีแรก และค่อยๆ เพิ่มจำนวนเพิ่มขึ้นในปีต่อไป จะทำให้ไม่เกิดปัญหาผลไม้ล้นตลาด และเกษตรกรสามารถกำหนดราคาได้
โดยทางหน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่ จ.ตราด เสนอให้หอการค้า จ.ตราด ได้ผลักดันให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนชั่วคราวที่บ้านหาดเล็ก เพื่อขอให้มีประชาชนชาวไทยสามารถเดินทางเข้าไปยังกัมพูชาได้โดยใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว
ทั้งนี้ ปัจจุบันบ้านหาดเล็กเป็นจุดผ่านแดนถาวร อนุญาตให้เฉพาะสินค้าเท่านั้น หากสามารถดำเนินการได้จะเกิดผลดีต่อการค้าและการท่องเที่ยวระหว่าง 2 จังหวัดมาก ส่วนการขยายเวลาการเปิดด่านจะขอให้มีการขยายไปถึงเวลา 22.00 น.หรือ 24.00 น.ของทุกวัน เพราะจะเกิดผลดีต่อการขนส่งสินค้าระหว่าง 2 ประเทศ
