ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เกษตรจังหวัดโคราช เตือนชาวนาชะลอการปลูกข้าวนาปี เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะภัยแล้ง แนะหว่านกลางเดือน มิ.ย.เป็นต้นไป เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุด ชี้ควรเลือกใช้พันธุ์ข้าวทนแล้ง
วันนี้ (9 มิ.ย.) นายสุพงศ์ สินธุรัตน์ เกษตรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากปัญหาฝนทิ้งช่วงในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดทั้งภัยแล้งและน้ำท่วมทำให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะข้าวนาปีมีพื้นที่เสียหายมากกว่าพืชชนิดอื่น จึงเป็นสัญญาณเตือนให้เกษตรกรต้องปรับวิธีการปลูกพืชใหม่
ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงและลดความเสี่ยงจากภาวะฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วงเป็นประจำนั้น เกษตรกรควรปรับเปลี่ยนวิธีการใหม่ ซึ่งข้าวนาปีถ้านับอายุจากข้าวงอกจนถึงเก็บเกี่ยวจะอายุอยู่ระหว่าง 120-130 วัน หากเกษตรกรหว่านข้าวตั้งแต่ต้นฤดูฝน ซึ่งกว่าจะได้เก็บเกี่ยวนั้น ข้าวจะยืนต้นอยู่ในนานานถึง 7 เดือน
ขณะเดียวกัน ข้าวจะดูดน้ำดูดปุ๋ยมาหล่อเลี้ยงลำต้น ทำให้ดินสูญเสียธาตุอาหารมากกว่าปกติและโอกาสที่โรคแมลงสัตว์ศัตรูเข้าทำลายก็มีมาก
ฉะนั้น เกษตรกรควรทำการหว่านข้าวระหว่าง วันที่ 15 มิ.ย.-31 ก.ค.ซึ่งจะเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 10-28 พ.ย.นี้ นอกจากนี้ ควรเลือกพันธุ์ข้าวที่ทนต่อสภาพความแห้งแล้ง เช่น ข้าวพันธุ์ กข.15, ข้าวดอกมะลิ 105, ข้าวเหนียว กข.6, กข.8 พันธุ์ข้าวเหล่านี้จะเก็บเกี่ยวในเดือนพ.ย.ได้
“สำหรับการเตรียมดินปลูกข้าว เกษตรกรควรทำการไถดะตากดินเป็นการไถกลบกำจัดวัชพืชเพื่อให้วัชพืชตายและกลายเป็นปุ๋ยพืชสด หลังจากนั้น ค่อยทำการไถเพื่อหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวทนแล้ง หากเกษตรกรปฏิบัติได้เช่นนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากฝนทิ้งช่วงและลดความเสื่อมโทรมของดินได้อีกด้วย” นายสุพงศ์ กล่าว