ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือออกแถลงการณ์ประณาม “หมัก” ประกาศใช้ความรุนแรงต่อการชุมนุมของพันธมิตรฯ ชี้เป็นนโยบายที่เป็นอัตรายต่อประชาธิปไตยอย่างยิ่ง พร้อมห้ามทหาร หรือองค์กรใด ๆ ใช้เหตุชุมนุมพันธมิตรฯทำรัฐประหาร
วันนี้ (31 พ.ค.51) องค์กรเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ทั้งหมด 7 องค์กร ประกอบด้วยคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ(กป.อพช.เหนือ),เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคเหนือ,สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือและเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ,กลุ่มเพื่อนประชาชนบนพื้นที่สูง,เครือข่ายชนเผ่าและชาติพันธุ์,สถาบันเพื่อสิทธิชุมชนและภาคีคนฮักเจียงใหม่ ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์กรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ประกาศสลายการชุมชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ทั้งนี้ ระบุว่า ตามที่นาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้แถลงผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย(NBT) และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ โดยประกาศขู่ว่าจะใช้กองกำลังเจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภายในวันนี้ (31พฤษภาคม 2551) นั้น พวกเราในนามเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ ดังมีรายชื่อองค์กรแนบท้ายแถลงการณ์ฉบับนี้ เราขอแถลงท่าทีและกรณีเรียกร้องต่อสถานการณ์ดังกล่าวดังต่อไปนี้
1.เรา ขอประณามพฤติกรรมนิยมใช้ความรุนแรงของนาย สมัคร สุนทรเวช ที่ประกาศใช้กองกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าการกระทำของนายสมัครเช่นนี้เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย ทั้งในอดีตและปัจจุบันอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะ การแตกต่างทางความคิด หรือการไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลในการบริหารประเทศ ด้วยการใช้สิทธิเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมือง เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยที่องค์กรหรือสถานบันใดๆ จะแทรกแซงไม่ได้
2.เรา ขอเรียกร้องให้นาย สมัคร สุนทรเวช หยุดความคิดและพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อระบบประชาธิปไตย และให้ยกเลิกคำสั่งที่จะสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข
3.เรา เรียกร้องต่อคณะนายทหารและสถาบันทั้งหลาย อย่าได้สร้างเงื่อนไข หรือใช้เงื่อนไขใดๆ จากการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อฉวยโอกาสกระทำการรัฐประหารยึดอำนาจ ล้มล้างระบอบประชาธิปไตยทุกรูปแบบ
และเครือข่ายฯ จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และพร้อมให้การสนับสนุนการสิทธิเสรีภาพทางเมือง ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยและคัดค้านการใช้อำนาจเผด็จการทุกรูปแบบจนถึงที่สุด
วันนี้ (31 พ.ค.51) องค์กรเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ทั้งหมด 7 องค์กร ประกอบด้วยคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ(กป.อพช.เหนือ),เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคเหนือ,สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือและเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ,กลุ่มเพื่อนประชาชนบนพื้นที่สูง,เครือข่ายชนเผ่าและชาติพันธุ์,สถาบันเพื่อสิทธิชุมชนและภาคีคนฮักเจียงใหม่ ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์กรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ประกาศสลายการชุมชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ทั้งนี้ ระบุว่า ตามที่นาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้แถลงผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย(NBT) และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ โดยประกาศขู่ว่าจะใช้กองกำลังเจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภายในวันนี้ (31พฤษภาคม 2551) นั้น พวกเราในนามเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ ดังมีรายชื่อองค์กรแนบท้ายแถลงการณ์ฉบับนี้ เราขอแถลงท่าทีและกรณีเรียกร้องต่อสถานการณ์ดังกล่าวดังต่อไปนี้
1.เรา ขอประณามพฤติกรรมนิยมใช้ความรุนแรงของนาย สมัคร สุนทรเวช ที่ประกาศใช้กองกำลังเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่าการกระทำของนายสมัครเช่นนี้เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย ทั้งในอดีตและปัจจุบันอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะ การแตกต่างทางความคิด หรือการไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลในการบริหารประเทศ ด้วยการใช้สิทธิเคลื่อนไหวชุมนุมทางการเมือง เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยที่องค์กรหรือสถานบันใดๆ จะแทรกแซงไม่ได้
2.เรา ขอเรียกร้องให้นาย สมัคร สุนทรเวช หยุดความคิดและพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อระบบประชาธิปไตย และให้ยกเลิกคำสั่งที่จะสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข
3.เรา เรียกร้องต่อคณะนายทหารและสถาบันทั้งหลาย อย่าได้สร้างเงื่อนไข หรือใช้เงื่อนไขใดๆ จากการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อฉวยโอกาสกระทำการรัฐประหารยึดอำนาจ ล้มล้างระบอบประชาธิปไตยทุกรูปแบบ
และเครือข่ายฯ จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และพร้อมให้การสนับสนุนการสิทธิเสรีภาพทางเมือง ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยและคัดค้านการใช้อำนาจเผด็จการทุกรูปแบบจนถึงที่สุด
