“ยายพิกุล” ลั่นไม่ได้ร่วมไล่ “ทาสแม้ว” นอนไม่หลับ

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - หลุดแน่ ส.ว.-ส.ส.ทาสน้ำเงินแม้ว กบฏแผ่นดินยุคดิจิตอล ชาวขอนแก่นยังทยอยลงชื่อถอดถอนไม่ขาดสาย “ยายพิกุล” และครอบครัวเดินทางจากภูเวียงมายังศูนย์ข่าวเพื่อลงชื่อไล่ผู้แทนจอมปลอม เผยทนไม่ได้แผ่นดินถูกย่ำยี-สถาบันเบื้องสูงถูกหมิ่น ขณะที่ชาวเมืองหมอแคนผู้รักชาติทะยอยสมทบชุมนุมพันธมิตรฯแล้วตั้งแต่ก่อนเที่ยงวันนี้

การลงชื่อเพื่อร่วมถอดถอนบรรดา ส.ส.-ส.ว.ที่เข้าชื่อยื่นยัติแก้ไขรัฐธรรมนูญของพี่น้องประชาชนในจังหวัดขอนแก่นยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ไม่เฉพาะแต่ชาวขอนแก่นในเขตเมืองเท่านั้น ประชาชนจากต่างอำเภอที่เข้าถึงข้อมูลข่าวก็ให้ความสนใจลงชื่อยื่นถอดถอนจำนวนไม่น้อยเช่นกัน

อย่างกรณีของครอบครัวนางพิกุล คำทอก อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 20 หมู่ที่ 5 ต.สงเปือย อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่นได้เดินทางมายังศูนย์ข่าวผู้จัดการ-ASTV news 1 จ.ขอนแก่น เมื่อค่ำวานนี้ เวลาประมาณ 18.45 น.

นางพิกุล เล่าว่า ตนและครอบครัวยอมเสียค่าน้ำมันรถพากันเดินทางมายังศูนย์ข่าวฯครั้งนี้เพื่อมากรอกแบบฟอร์มยื่นถอดถอน ส.ส.-ส.ว.โดยเฉพาะ เพราะทนไม่ได้ที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ซึ่งเพิ่งประกาศบังคับใช้ได้ไม่กี่เดือน การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ เพราะต้องการช่วยให้อดีตนายกฯทักษิณพ้นผิดจากข้อกล่าวหาโกงชาติโกงแผ่นดิน ไม่ได้แก้เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน

นางพิกุล เล่าอีกว่า แม้ครอบครัวตนจะอยู่ห่างไกลอยู่อำเภอรอบนอกเมืองขอนแก่น แต่ก็พยายามติดตามข่าวสารสถานการณ์บ้านเมืองมาตลอด แรกๆเมื่อปี 2548-2549ที่พันธมิตรฯชุมนุมขับไล่ทักษิณก็ติดตามจากโทรทัศน์ช่องฟรีทีวี แต่สังเกตว่า ข้อมูลที่ช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9 ไอทีวีสมัยนั้นนำมาเผยแพร่เหมือนมีอะไรปิดบังซ่อนเร้นอยู่ และพยายามแก้ข้อกล่าวหาให้อดีตนายกฯทักษิณมากกว่าที่จะนำเสนอข้อมูลให้คนดูพิจารณาเอง ก็เลยตัดสินใจไปซื้อจานดาวเทียม ASTV ที่กรุงเทพฯมาติดตั้งที่บ้าน

“ฉันติดตามข้อมูลของช่องนิวส์ 1 ทุกวัน ดูรายการข่าวของเขาแล้ว รู้สึกว่าได้ข้อมูลได้ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมมากมายที่ทีวีช่องอื่นๆ ไม่นำมาเผยแพร่ การเปิดเผยข้อมูลของเอเอสทีวีเขามีเหตุมีผลอธิบายที่มาที่ไปของปัญหาบ้านเมืองหมดเลย ทำให้ฉันและครอบครัวหูตาสว่าง มั่นใจว่าอดีตนายกฯทักษิณและครอบครัวทำผิดโกงกินบ้านเมืองจริงๆ ตั้งแต่ได้ดูเอเอสทีวี ฉันเลิกดูทีวีช่องอื่นหมด”นางพิกุลกล่าวและเล่าต่ออีกว่า

รัฐบาลนี้ไม่เห็นทำอะไรให้ชาวบ้านให้ประเทศชาติเลย เข้ามาก็มีแต่จะช่วยปกป้องครอบครัวทักษิณ ไม่มีใครรักแผ่นดินไทย รักพระเจ้าอยู่หัวเหมือนกับพี่น้องพันธมิตรฯเลย พระเจ้าอย่หัว ถูก นายจักรภพ จาบจ้วง หมิ่นพระบรมฯ ก็ไม่เห็นใครออกมาเตือนหรือลงโทษเลย นี่ถ้าพันธมิตรฯไม่ออกมาชุมนุมก็คงไม่มีใครสนใจจะปกป้องพระเจ้าแผ่นดิน

“ฉันทนไม่ได้ที่จะมีใครคิดร้ายกับพระเจ้าแผ่นดิน ฉันจุดธูป นั่งสมาธิอธิฐานให้พระเจ้าอยู่หัวทรงแข็งแรง ไม่ให้มีภัยใดๆมาทำร้ายพระองค์ได้ ทำอยู่อย่างนี้ทุกวัน ยอมรับว่าในใจฉันรักพระเจ้าอยู่หัวมากกว่าลูกๆเสียอีก ฉันก็พร่ำสอนลูกหลานให้รักประเทศรักพระเจ้าอยู่หัวมากกว่าตัวเอง ที่สำคัญต้องเป็นคนดีด้วย ถ้าไม่ได้มาลงชื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.หน้าเงินพวกนี้ฉันคงนอนไม่หลับแน่”

นางพิกุล กล่าวอีกว่า ใจจริงอยากจะไปร่วมชุมนุมในคืนวันนี้ (30 พ.ค.) ด้วย แต่ติดปัญหาแก่มากแล้ว ลูกหลานเป็นห่วงว่าจะไม่สบาย แต่ฉันและครอบครัวก็จะส่งกำลังใจไปให้กับพี่น้องที่ชุมนุมที่กรุงเทพฯและนั่งดูถ่ายทอดสดอยู่ที่บ้าน

“ยายพิกุล” กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ฉันและครอบครัวขอฝากทีมข่าวเอเอสทีวี และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ที่ศูนย์ข่าว จ.ขอนแก่นนี้ บอกไปยังคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และพี่น้องพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมที่กรุงเทพฯ ว่าครอบครัวฉันส่งกำลังใจไปให้พร้อมสวดมนต์ส่งใจให้นายสนธิ ลิ้มทองกุลและชาวพันธมิตร ได้รับชัยชนะ เอาประเทศไทยกลับคืนจากคนไร้คุณธรรมให้ได้ และยังได้โอนเงินช่วยในการจัดชุมนุมของพันธมิตรและช่วยเอเอสทีวี รวม 1,000 บาท และอยากบอกคนที่เรียนหนังสือสูง แต่ไม่มีความรู้หรือไม่ยอมเข้าใจไม่คิดมาช่วยปกป้องชาติบ้านเมืองกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนั้น ถือเป็นพวก “บัวใต้น้ำ”

รายงานข่าวแจ้งว่า การนัดชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรฯค่ำวันนี้ (30 พ.ค.) ชาวขอนแก่นที่รักชาติ ศาสน์ กษัติริย์ จำนวนมากได้ตัดสินใจเข้าร่วมชุมนุม ส่วนใหญ่เดินทางไปกันเองลัษณะกลุ่มเล็กๆ และที่เหมารถยนต์ทั้งรถตู้-รถบัสเท่าที่ทราบมีไม่ต่ำกว่า 5 กลุ่ม คาดว่า ไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ทั้งจากอำเภอชุมแพ อำเภอพล อำเภอเมือง โดยค่าใช้จ่ายเดินทาง ได้มาจากการลงขันของพ่อค้า นักธุรกิจในเมืองขอนแก่นเพื่อเช่ารถและค่าน้ำมัน