โวยสภาเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ไม่อนุมัติให้โรงตึ๊งกู้เงินหมุนเวียน

กาฬสินธุ์ - ชาวเมืองน้ำดำโวย ส.ท.เมืองกาฬสินธุ์ขั้วอำนาจเก่า มีอคติไม่อนุมัติให้สถานธนานุบาลกู้เงินจาก ก.บ.ท.จำนวน 4 ล้านบาท เพื่อนำมาหมุนเวียนให้ผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม นายกเล็กวอนให้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม อย่าแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (22 พ.ค.) นายโฆสิต ธีรกุล ประธานสภาเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เป็นประธานเปิดการประชุมสภาเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ สมัยสามัญ สมัยที่ 1 ครั้งที่ 1 ประจำปี 2551 โดยมีนายภิญโญ รัตนศาสตร์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ผู้บริหาร และสมาชิกสภาเทศบาลเข้าร่วมกว่า 50 คน

โดยการประชุมประธานสภาฯ ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกสภาเทศบาลได้ตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับนโยบายของผู้บริหาร โดยเฉพาะเรื่องรายรับ รายจ่าย จำนวนเงินกู้ จำนวนเงินสะสม นโยบายด้านการพัฒนาการศึกษา ถนนหนทางและการมอบเงินช่วยเหลือผู้พิการและผู้สูงอายุ จากนั้นนายภิญโญ รัตนศาสตร์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ได้ตอบกระทู้กับคำถามของสมาชิกอย่างละเอียด

ต่อมานายภิญโญ ได้ยื่นญัติขออนุญาตให้สภาฯอนุมัติให้สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์กู้เงินจากกองทุนบำเหน็จ บำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น (ก.บ.ท.) จำนวน 4,000,000 บาท เพื่อนำไปเป็นทุนหมุนเวียนในกิจการสถานธนานุบาลและช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อให้เพียงต่อความต้องการของประชาชน

อย่างไรก็ตาม หลังจากนายภิญโญยื่นญัติ มีสมาชิกสภาเทศบาล หรือ ส.ท. กลุ่มประชาสามัคคี ซึ่งเป็น ส.ท.ขั้วอำนาจเก่าหลายคน ได้ลุกขึ้นอภิปรายไม่เห็นด้วยกับญัติดังกล่าว โดยส่วนใหญ่บอกว่าไม่จำเป็นต้องให้กู้และให้สถานธนานุบาลไปจัดการบริหารเงินที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด จากนั้นประธานสภาได้ถามมติที่ประชุม ซึ่งผลปรากฏว่ามี ส.ท.ยกมือไม่อนุมัติให้สถานธนานุบาลกู้เงินจาก กบท.จำนวน 12 เสียง เห็นด้วย 4 เสียง และงดออกเสียงอีก 2 เสียง

นายภิญโญ รัตนศาสตร์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ การยื่นญัติให้สภาฯอนุมัติให้สถานธนานุบาลกู้เงินจาก กบท.ครั้งนี้ เนื่องจากได้รับการขอความช่วยเหลือจากประชาชน เพราะปัจจุบันประชาชนทั่วไปในจังหวัดกาฬสินธุ์และใกล้เคียงที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ได้ให้ความสนใจเข้ามาใช้บริการกับสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์เป็นจำนวนมากและเพิ่มมากขึ้น

จึงเป็นเหตุให้สถานธนานุบาลขาดเงินทุนหมุนเวียนในการรับจำนำ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกู้เงินจาก กบท.มาเป็นทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน

นายภิญโญ กล่าวอีกว่า การที่ ส.ท.กลุ่มประชาสามัคคีที่ยกมือไม่เห็นด้วยและไม่อนุมัติครั้งนี้ ถือว่าเป็นสิทธิส่วนบุคคลในการออกเสียง แต่อยากให้ ส.ท.ทุกคนคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม ใช้เหตุใช้ผลในการตัดสินใจออกเสียง เพื่อช่วยประชาชนที่เดือดร้อน อย่าตั้งแง่หรือแบ่งฝักแบ่งฝ่ายว่าอยู่คนละกลุ่มแล้วไม่จำเป็นต้องอนุมัติ ทั้งๆ ที่เงินกู้จำนวนดังกล่าวสถานธนานุบาลจะดำเนินการกู้เงินจาก กบท.เอง ไม่ได้กู้กับเทศบาล ไม่ใช่เงินของเทศบาล เพียงแต่ต้องให้สภาเทศบาลอนุมัติเท่านั้น เพราะในกฎหมายกำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม ตนยังยื่นยันที่จะดำเนินการเรื่องดังกล่าวนี้ต่อไป เพื่อช่วยเหลือประชาชน

สำหรับสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์รับจำนำเฉลี่ยเดือนละ 950 ราย เป็นเงิน 7,208,128 บาท การไถ่ถอนเฉลี่ยเดือนละ 942 ราย เป็นเงิน 6,871,857 บาท โดยขณะนี้มียอดเงินออมทรัพย์ฝากธนาคาร 853.09 บาท เงินสดในมือ 67,940.59 บาท มียอดทรัพย์รับจำนำในสต๊อคในวันที่ 30 เมษายน 2551 2,384 ราย เป็นเงินทั้งหมด 19,067,650 บาท

ด้านประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์รายหนึ่งที่เข้าใช้บริการกับสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เหตุที่เลือกนำสิ่งของมาจำนำกับสถานธนานุบาลก็เพราะมีดอกเบี้ยถูกกว่าที่อื่น แต่ขณะนี้ทราบว่าสถานธนานุบาลไม่มีเงินรับจำนำ ซึ่งล่าสุดทางสภาก็ไม่อนุมัติให้กู้เงินมาหมุนเวียน ทั้งๆที่จังหวัดอื่นต่างก็เตรียมเงินไว้ช่วยเหลือประชาชน

ดังนั้น ก็คงต้องไปจำนำที่อื่น แม้จะเสียดอกเบี้ยแพงก็ยอมเพราะต้องการใช้เงิน แต่ไม่เข้าใจว่าทางสถานธนานุบาลจะนำเงินที่ไหนมาบริการประชาชนอีกต่อไป เพราะฉะนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือสถานธนานุบาลเพื่อให้มีทุนมาให้บริการกับประชาชนด้วย