เชียงราย – คสศ.หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ เตรียมเสนอขอส่งคนเอี่ยวในเวที ECF จันทร์นี้ (26 พ.ค.) หวังร่วมวางยุทธศาสตร์พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเหนือใต้ พร้อมเผยเผยนายกสมาคมค้าปลีก เตรียมจับคู่ธุรกิจเปิดตลาดค้าปลีกสินค้าไทยในลาวรับ R3a
นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย และประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ เปิดเผยว่า จากการประชุม Summit ครั้งที่ 3 ที่กรุงเวียงจันทน์ เมื่อวันที่ 30-31 มีนาคม 2551 สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เห็นชอบตามข้อเสนอของจีนให้จัดตั้งเวทีดำเนินงานพัฒนาแนวพื้นที่เศรษฐกิจ (Economic Corridor Forum - ECF) และทาง ADB จะจัดการประชุมเพื่อนำข้อมูลประกอบการยกร่างจัดตั้ง (TOR) เวที ECF และรับฟังข้อคิดเห็นของประเทศสมาชิกต่อร่างยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการพัฒนาแนวพื้นที่เศรษฐกิจเหนือ-ใต้ (North South Economic Corridor-NSEC) ซึ่งจะเป็นโครงการนำร่องของการทำงานของ ECF
การประชุมจะมีขึ้นในวันที่ 26 พฤษภาคม 2551 ที่ สำนักงาน ADB ประจำประเทศไทย ชั้น 23 อาคาร Central World ถนนพระราม 1 กทม.โดยหอการค้าจังหวัดเชียงรายได้รับเชิญเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย
ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย และประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ กล่าวว่า ประเด็นของหอการค้าจังหวัดเชียงราย และในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (คสศ.) หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ ให้มีภาคเอกชนในพื้นที่ 10 จังหวัดภาคเหนือ ได้เข้าไปเป็นกรรมการในองค์คณะของ ECF หรืออย่างน้อยก็ร่วมเป็นคณะทำงานในเวทีนี้ด้วย
นอกจากนี้ ควรเร่งเพิ่มขีดความสามารถในการจัดการ การบริหารของผู้ประกอบการ การเพิ่มทักษะ ฝีมือให้มีมากขึ้น เพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการท้องถิ่นให้ดีมากขึ้น
สำหรับความคืบหน้าความร่วมมือระหว่าง หอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ และ 7 แขวงของ ส.ป.ป.ลาว หลังจากมีการเดินทางไปศึกษาดูงาน จับคู่ธุรกิจ เรื่อง “การพัฒนาความร่วมมือระหว่างไทย-ส.ป.ป.ลาว ด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว ขนส่ง และลอจิสติกส์ เพื่อการไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน บนเส้นทาง R3a” ระหว่างวันที่ 15-18 พฤษภาคม
ล่าสุด จากการที่นายกสมาคมค้าปลีกแห่งประเทศไทย และเลขาธิการ กับตน ได้เดินทางไปที่แขวงหลวงน้ำทา ได้มีแนวทางที่จะเปิดตลาดค้าปลีกสินค้าไทย-ลาว ที่แขวงหลวงน้ำทา เพื่อนำสินค้าไทยนานาชนิดไปวางจำหน่าย ร่วมกับสินค้าของ สปป.ลาว ซึ่งถือว่าเป็นความคืบหน้าการจับคู่ธุรกิจต่อเนื่อง หลังจากที่ กลุ่มซีพีสนใจที่จะไปลงทุนด้านการปลูกข้าวและทำการเกษตรใน 8 แขวงของ สปป.ลาว ส่วน บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ สนใจที่จะไปปลูกองุ่นเพื่อทำไวน์ใน สปป.ลาว ด้วย
